นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกระหน่ำขายสัปดาห์นี้ ขณะนักลงทุนจับตาประชุม FED,ข้อมูลศก.สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 27, 2008 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะยังคงถูกแรงขายทุบร่วงลงต่อในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอย ผลประกอบการเอกชน และปัญหาในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อ นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่

ไรอัน เดริค นักวิเคราะห์จาก Schaeffer's Investment Research กล่าวว่า "เราคาดว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเคลื่อนตัวผันผวนในสัปดาห์นี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ"

"ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 312.30 จุด หรือ 3.59% แตะที่ 8,378.95 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก โดยนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นแม้สมาคมนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านในสหรัฐเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้นเหนือความคาดหมาย 5.5% ก็ตาม" เดริคกล่าว

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ วันจันทร์กระทรวงพาณิชย์ขะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีอุตสาหกรรมเขตมิดเวสต์เดือนก.ย.

วันอังคาร สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนต.ค. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.และกระทรวงพลังงานจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3 และ มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ต.ค. โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.5% อย่างไรก็ตาม โธมัส เจ ลี นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "ตลาดได้ซึมซับกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยไว้แล้ว ซึ่งเรามองว่าแม้เฟดลดดอกเบี้ยจริงตามกระแสคาดการณ์ ก็ไม่อาจช่วยลดความตึงเครียดในตลาดได้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวแนวโน้มเศรษฐกิจระดับมหภาค" สำนักข่าวเอพีรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ