ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 387.43 จุด ลดลง 45.44 จุด(-10.50%) มูลค่าการซื้อขาย 11,787 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 424.88 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ปิดตลาด คือ 387.43 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 30 หลักทรัพย์ ลดลง 368 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 41 หลักทรัพย์
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงต่อเนื่องจากที่ทุกคนรอดูการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือเปล่า ก็ไม่ได้มีอะไรที่ออกมาเป็นรูปธรรมที่เด่นชัด รวมไปถึงกรณีของเกาหลีที่เมื่อเช้ามีการหั่นดอกเบี้ยลงมาแรงๆ แต่ตลาดก็ไม่ได้ตอบสนองก็อาจจะเป็นแค่รีบาวน์ระหว่างวัน อาการแบบนี้ยิ่งทำให้สภาพโดยรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ดี รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ออกมาสะท้อนถึงภาวะถดถอยที่ค่อนข้างชัดเจนยิ่งทำให้เกิดแรง panic กันถ้วนหน้าโดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นการทำ new low ในรอบประมาณ 10 กว่าปี เทียบจากที่เคย high
ทิศทางหุ้นไทยถ้าดูจากหลายประเด็นอย่างเรื่องในต่างประเทศ การเมืองบ้านเราอีก และมีเรื่องฟอร์ซเซล ยิ่งเป็นภาวะการขาย (Selling Pressure) ที่กดให้ราคาหุ้นลงมาอีก
"ตราบเท่าที่ประเด็นทุกอย่างยังไม่จบดัชนีก็ยังเป็นขาลงอยู่ อาจจะต้องลงมาดูแถว 364 หรือ 350 จุด" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,771.66 ล้านบาท ปิดที่ 75.00 บาท ลดลง 15.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,610.59 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง 21.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 748.11 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 6.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 678.34 ล้านบาท ปิดที่ 59.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 629.75 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 6.00 บาท