นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานกรรมการ บมจ. ทีโอที เปิดเผยว่า แผนพัฒนาโครงข่ายโทรศัพทฺ์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย เบื้องต้นคาดว่าจะออกทีโออาร์เพื่อสร้างโครงข่ายระบบ 3จี ในปลายปี 51 จะรู้ผลผู้ชนะประมูลในไตรมาส 1/52 เพื่อให้บริการในเขตกรุงเทพ-ปริมณฑลในปี 52 โดยจะใช้เสาอากาศเดิมของไทยโมบาย
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวยึดนโยบายภาครัฐเป็นหลัก แม้ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่หากรัฐต้องการลงทุน ทีโอที ก็พร้อมดำเนินการตาม
"ปัจจุบันทางบอร์ดยังไม่สามารถเปิดเผยเม็ดเงินลงทุน 3จีของทีโอทีได้ แม้กรอบกว้างๆจะวางไว้ 2.9 หมื่นล้านบาท แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะใช้เงินน้อยกว่า เพราะของเราต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีโอที" ประธานกรรมการ ทีโอทีกล่าว
สำหรับโครงข่ายบรอดแบนด์ไอพีนั้น ทางทีโอทีอยู่ระหว่างการดำเนินการ และคาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการเพื่อขออนุมัติจัดหาคู่สัญญาทำทีโออาร์ได้ ภายในปี 51
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ เร่งรัดให้ขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ ไอพี ซึ่งของเดิมล้าสมัยและหมดอายุการใช้งาน ระหว่างนี้จะจัดทำทีโอาร์ คาดว่าจะนำเสนอเพื่ออนุมัติทีโออาร์ในการจัดหาคู่สัญญาภายในปี 51 และในปี 52 จะติดตั้งอุปกรณ์และสื่อสัญญาณ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 53 ซึ่งคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ชนะประกวดในช่วงไตรมาส 1/52
ส่วนเรื่องการให้บริการบรอดแบนด์ อินเตอร์เน็ตได้มีการอนุมัติในหลักการ ให้จัดหาแผนงานการให้บริการ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 1.08 ล้านพอร์ต ทั้งนี้ได้ให้ฝ่ายบริหารดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบอย่างรอบคอบ
ด้านผลประกอบการในปี 51 ประธานกรรมการ คาดว่า ทีโอทีจะมีกำไรสุทธิ 5.4 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.2 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในส่วนโครงการพนักงงานเกษียณก่อนกำหนด และปรับขึ้นเงินเดือนพนักงาน 4% รวมถึงการเพิ่มเงินค่าครองชีพให้กับพนักงาน
รายได้ปี 51 คาดว่าจะอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มี 5 หมื่นล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากส่วนแบ่งรายได้สัญญาร่วมการงานของเอกชน และรายได้จากการประกอบธุรกิจ ได้แก่ การให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานที่มี 4.5 ล้านเลขหมาย และการให้บริการบรอดแบรนด์ ที่ปัจจุบันมี 6 แสนราย
"การที่บอร์ดชุดใหม่เข้ามาทำงาน 6 เดือน ถือว่ารายได้และกำไรตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ และคาดว่าในแผนเทิร์นอะราวน์ ที่มุ่งสร้างทีโอทีใหม่ จะทำให้เป้าหมายปี 2554 มีกำไรสุทธิ เพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้านบาทเป็นเรื่องที่สามารถทำได้" นายธีรวุฒิ กล่าว