ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกศก.ถดถอยฉุดดาวโจนส์ร่วง 203.18 จุด ปิดต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 28, 2008 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่งเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดิ่งลงถ้วนหน้า เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ภาวะสินเชื่อตึงตัว และภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 203.18 จุด หรือ 2.42% แตะที่ 8,175.77 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีพ.ศ.2546 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดร่วง 27.85 จุด หรือ 3.18% แตะที่ 848.92 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีพ.ศ.2546 และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 46.13 จุด หรือ 2.97% แตะที่ 1,505.90 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีพ.ศ.2546

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.34 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.27 พันล้านหุ้น

อัลเฟรด โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัท Wachovia Securities กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขาย โดยเฉพาะกลุ่มเฮดจ์และกลุ่มกองทุนรวมที่เข้ามาเทขายอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยเทขายตาม สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นในมาตรการต่างๆที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพยายามนำออกมาใช้เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจถดถอย"

"การที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงเมื่อวานนี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นโตเกียวและตลาดหุ้นฮ่องกง ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ย่ำแย่แบบนี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกจากตลาดหุ้น จึงทำให้วอลุ่มการซื้อขายเบาบางมาก และแม้ว่าจะมีกลุ่มผู้ซื้อรายเข้ามาช้อนซื้อหุ้นไว้ในช่วงท้ายๆของการซื้อขาย แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงขายที่กระหน่ำเข้ามาได้" โกลด์แมนกล่าว

นักลงทุนแทบจะไม่ให้ความสนใจต่อข่าวที่ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้มาตรการช่วยเหลือภาคการธนาคารครั้งใหม่ ด้วยการทำข้อตกลงกับธนาคาร 9 แห่งเพื่อเข้าซื้อหุ้นในธนาคารเหล่านี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างงบดุลของธนาคารและกระตุ้นสภาพคล่องให้ลื่นไหล

บรรยากาศการซื้อขายซบเซาหนักขึ้นเมื่อมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ลงสู่ระดับ "ขยะ" เนื่องจากยอดขายรถยนต์ของจีเอ็มได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาในตลาดรถยนต์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้นจีเอ็มดิ่งลง 8.4%

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าเมื่อวานนี้ โดยดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วง 1,602.54 จุด หรือ 12.7% ปิดที่ 11,015.84 จุด ซึ่งเป็นการร่วงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. ปี 2540 เมื่อพิจารณาเป็นเปอร์เซนต์ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลง 486.18 จุด หรือ 6.36% ปิดที่ 7,162.90 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2525 และตลาดหุ้นทรัพย์ฟิลิปปินส์ประกาศระงับการซื้อขายหลังจากดัชนีคอมโพสิตดิ่งลงกว่า 10% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ใช้กฎ "circuit breaker"

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยวันอังคาร สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนต.ค. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 และวันศุกร์กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3 และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ต.ค. โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ