ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันนี้ โดยมีหุ้นกลุ่มการเงินและบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นแกนนำในการปรับตัวลง หลังจากที่มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ปเปิดเผยว่า จะขายหุ้นเพิ่มเพื่อระดมทุน ขณะที่บริษัท แคนนอนได้ปรับลดคาดการณ์กำไร
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ดิ่งลง 15% หลังจากที่ได้เปิดเผยแผนการระดมทุนถึง 9 แสนล้านเยน หรือ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ หุ้นแคนนอน ตกลง 4.6% หุ้นซานโทสและอินเป๊กซ์ โฮลดิ้งส์ ตกลงมากกว่า 4% หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2550
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิตกลง 1.6% แตะ 7,050.79 จุด ส่วนดัชนีหุ้น Kospi ของเกาหลีใต้ร่วง 2.5% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดลบ 138.73 จุด แตะ 11,154.57 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ตกลง 1.8% แตะ 73.81 จุด เมื่อเวลา 9.53 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว นับเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ที่สุดของโลก บวก 2.5% ในช่วงที่ราคาทองแดงและนิกเกิ้ลทะยานมากกว่า 7% เมื่อวานนี้ โดยราคาโลหะดีดตัวขึ้นหลังจากที่ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยคลายความกังวลที่ว่า ภาวะเศณษฐกิตถดถอยจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยลดลง