ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากดัชนีดิ่งลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 889.35 จุด หรือ 10.88% แตะ 9,065.12 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่ง 91.59 จุด หรือ 10.79% แตะที่ 940.51 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 143.57 จุด หรือ 9.53% แตะที่ 1,649.47 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.73 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.77 พันล้านหุ้น
บ๊อบ อังเดรส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Portfolio Management Consultants กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้ออย่างคึกคักมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะลดดอกเบี้ยลงอีก รวมถึงเฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้
คริส เทอร์เนอร์ นักวิเคราะห์ด้านการลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศจาก ING Groep NV กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ค่าเงินเยนแข็งแกร่งมากเกินไปจนทำให้นักลงทุนจับตาดูว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะหาทางแก้ไขวิกฤตการดังกล่าวได้อย่างไร เพราะเงินเยนที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงกำลังสร้างความเสียหายต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออก อาทิ บริษัท แคนนน่อน และยังฉุดตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี"
กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้งบประมาณงวดแรกมูลค่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ 9 แห่งของสหรัฐ รวมถึงแบงค์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน,เวลส์ ฟาร์โก, แคปิตอล วัน ไฟแนนเชียล และซันทรัสต์ แบงค์ส โดยการนำงบประมาณดังกล่าวเข้าซื้อหุ้นในธนาคารเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นการดำเนินการระยะแรกนับตั้งแต่สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
นอกเหนือจากการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารแล้ว นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลัง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของกระทรวงการคลัง กำลังพิจารณาคำร้องขอความช่วยเหลือจากอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆด้วย รวมถึง บริษัทประกัน บริษัทรถยนต์ และธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐที่นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นใหญ่
นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.5%
อย่างไรก็ตาม โธมัส เจ ลี นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "ตลาดได้ซึมซับกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยไว้แล้ว ซึ่งเรามองว่าแม้เฟดลดดอกเบี้ยจริงตามกระแสคาดการณ์ ก็ไม่อาจช่วยลดความตึงเครียดในตลาดได้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวแนวโน้มเศรษฐกิจระดับมหภาค"
หุ้นอัลโคพุ่งขึ้น 19.25% หุ้นเวอริซอน คอมมูนิเคชันส์ ดีดขึ้น 14.63% ส่วนหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นเชฟรอน ทะยานขึ้นกว่า 13% และหุ้เจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 10.59%