บมจ.ปริญสิริ(PRIN)วางกลยุทธรับมือเศรษฐกิจชะลอตัวและความมั่นใจผู้บริโภคหดหาย เตรียมปรับรูปแบบและลดขนาดโครงการเพื่อโอนได้เร็วขึ้น งดขึ้นคอนโดมิเนียมหันเน้นบ้านพื้นราบเป็นหลัก พร้อมทั้งตัดขายที่ดินในพอร์ต และลดความเสี่ยงด้านต้นทุน เผยงาน backlog ยังมีกว่า 4-5 พันล้านบาททยอยรับรู้ได้ต่อเนื่อง เชื่อปีนี้กำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อน แต่ยอมรับปีหน้ายังประเมินลำบาก เริ่มเห็นสัญญาณตลาดฟุบ
นายวีระ ศรีชนะชัยโชค กรรมการ PRIN เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทจะหันมาเปิดโครงการที่มีขนาดเล็กลงเพื่อให้ขายเร็วและปิดโครงการโอนได้เร็วขึ้น จากเดิมที่จะพัฒนาโครงการขนาประมาณ 30-40 ไร่ ก็จะลดลงเหลือ 10-20 ไร่ และเน้นการพัฒนาโครงการในแนวราบเท่านั้น โดยชะลอโครงการในส่วนคอนโดมิเนียมออกไป เพราะมองว่าขณะนี้โอเวอร์ซัพพลาย
ขณะเดียวกัน บริษัทก็อาจจะพิจารณาตัดแบ่งขายที่ดินประมาณ 2 แปลงหรือมูลค่าประมาณ 100 กว่าล้านบาท จากปัจจุบันที่มีที่ดินอยู่ประมาณ 1 พันกว่าไร่ โดยก่อนหน้านี้เคยแบ่งขายที่ดินไปบ้างแล้วย่านพหลโยธิน 35 และถนนราชพฤกษ์
นายวีระ กล่าวว่า บริษัทยังจะมีการปรับปรุงในแง่การดำเนินงานทั้งการบริหารการขายและงานก่อสร้าง โดยในส่วนของงานก่อสร้างจะหันมาสั่งสินค้าบางประเภทให้กับผู้รับเหมา จากเดิมที่จะให้ผู้รับเหมาจัดการทั้ง 100% ส่วนการขายก็จะให้พนักงานขายเจาะลึกในแต่ละตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับปรุงดังกล่าวคงเห็นผลปีหน้าที่จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆหรือเฟสใหม่ แต่โครงการที่เปิดในไตรมาส 4/51 จำนวน 3 โครงการ เป็นโครงการใหม่ 2 แห่ง คือ โครงการย่านวัชรพลที่จะเปิดในช่วง เดือนต.ค.และอีก 1 โครงการเป็นการขยายเฟส ยังคงเปิดไปตามแผนงานที่วางไว้
*รอดูผลงานปีนี้ก่อนประเมินภาพปีหน้า หลังเห็นสัญญาณกำลังซื้อชะลอใน Q4/51
นายวีระ กล่าวยอมรับว่าสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้บริษัทประเมินแผนงานและโครงการที่จะเปิดในปีหน้าค่อนข้างลำบาก อีกทั้งบริษัทต้องการรอดูผลประกอบการในปีนี้ก่อน แต่เหตุการณ์ทางการเมืองและความไม่ชัดเจนในเรื่องทิศทางดอกเบี้ย ส่งผลให้ขณะนี้ผกำลังซื้อชะลอตัวและผู้บริโภคเลื่อนการตัดสินใจซื้อบ้าน ซึ่งได้เริ่มเห็นสัญญาการชะลอตัวแล้วในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อว่าในปี 51 จะทำรายได้ได้ตามเป้าหมาย 4 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา 9 เดือนมียอดขายแล้ว 3 พันล้านบาท และยังงานที่รอรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/51 อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนในด้านกำไรสุทธิมั่นใจจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไร 70 กว่าล้านบาท
ปัจจุบัน PRIN มี Backlog รวม 4-5 พันล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 1- 2 พันล้านบาทที่จะรับรู้ฯในปีนี้ ส่วนงานโครงการแนวสูงจะรับรู้ฯในปีหน้า
"สถานการณ์อย่างนี้เราก็พยายามปรับปรุงเราเห็นตรงไหนทำได้ก็ทำ แต่ในส่วนของการขายพยายามให้พนักงานชี้ให้ลูกค้าเห็นถึงการออกแบบเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทั้งๆ ที่คุณภาพเราดีอยู่แล้ว บ้านก็มีดีไซด์ แต่เราเพียงไม่ได้หยิบยกให้เขาเห็น อย่างโครงการใหม่ๆเราก็เปิดให้น้อยลงเพื่อลดความเสี่ยง เพราะผมเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลให้เห็นปีหน้า เพราะต้องยอมรับว่าเงียบมากยอดขายในไตรมาส 4 ปีนี้" นายวีระ กล่าว