ตลาดหุ้นไทยร่วงแล้วกว่า 2% หลังจากเปิดทำการภาคบ่ายเปิดลบไป 1.25% จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่เมื่อเช้าปรับขึ้นแรง ขณะที่บรรยากาศนอกประเทศยังไม่ดีขึ้น โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ส ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังกังวลต่อปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่ใจว่ามาตรการต่าง ๆ ที่เปิดเผยกันออกมาจะสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่
เมื่อเวลา 14.36 น. ดัชนี SET ปรับลง 9.75 จุด มาที่ 388.29 จุด (-2.45%) จากเปิดบ่ายที่ 393.05 จุด ลดลง 4.99 จุด (-1.25%) จากช่วงเช้าปิดลดลง 3.70 จุด (-0.93%)
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ภาคบ่ายมีแรงขายทำกำไรต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่ดัชนี SET ขึ้นไปแต่ไปต่อไม่ไหวจึงเริ่มมีแรง take profit กดดัชนีลงมา ทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเพราะที่ผ่านมาตลาดเคลื่อนไหวในลักษณะอิงตามเพื่อนบ้านอยู่แล้วและหุ้นเอเชียก็เริ่มมี take profit ลงมาด้วยเหมือนกัน
"เป็นการขายทำกำไร ขายลดความเสี่ยง เพราะที่ผ่านมาก็เชื่อเป็นการรีบาวน์ช่วงสั้นอยู่ ทำให้ตลาดชะลอลงไป อาจจะต้องรอดูเฟดคืนนี้มากกว่า"นายเจริญ กล่าว
สำหรับกรณีที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่วงหน้าลงไป 146 จุด ก็มีส่วนกดดันดัชนีหุ้นไทยด้วย เพราะตลาดหุ้นช่วงนี้ดูทิศทางตลาดต่างประเทศเป็นหลัก พอเริ่มชะลอหุ้นไทยก็ชะลอลงตาม ขณะที่ทิศทางภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาลง แต่ก็มีโอกาสของการรีบาวน์อยู่เพราะ over sold ให้แนวรับ 380 จุด 416 จุด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.42 น.ดัชนีอยู่ที่ 391.04 จุด ลดลง 7.00 จุด (-1.76%)