(เพิ่มเติม) HEMRAJ เลื่อนขายหุ้นกู้เป็นต้นปี 52/ยอดขายปีนี้ยังได้ตามเป้า 1.7 พันไร่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 29, 2008 15:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ)ระบุว่า บริษัทเลื่อนการเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 2-3 พันล้านบาทออกไปเป็นช่วงต้นปี 52 จากเดิมที่คาดจะขายในเดือน ต.ค.นี้ เนื่องจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้อ

แต่ในด้านผลประกอบการ บริษัทเชื่อว่าปีนี้ยังสามารถทำยอดขายได้ที่ 1.7 พันไร่ในปีนี้ โดยปัจจุบันมียอดขายแล้ว 1.5 พันไร่ และยังมียอดขายเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตทางการเงินและสถานการณ์ทางการเมือง จนทำให้ลูกค้าต้องชะลอการซื้อที่ดินออกไป

สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ หรือจะเป็นลักษณะการเทคโอเวอร์ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นประมาณ 1-2 โครงการ ใช้เงินประมาณ 1 พันล้านบาท อีกทั้งจะมีการปรับเปลี่ยนมูลค่าโครงการให้มีขนาดเล็กลงเหลือ 500-1,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการเดอะ พาร์ค ชิดลม ที่มีมูลค่าโครงการ 5-6 พันล้านบาท เพื่อให้สามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้น อีกทั้งเป็นการลดความเสี่ยงจากปัจจัยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ HEMRAJ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและหาซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการลูกค้า และรอจังหวะสถานการณ์ดีขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมีแลนด์แบงก์เหลืออยู่ 1 หมื่นไร่ แต่มองที่จะซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในปี 52 ภายใต้งบลงทุนราว 300-400 ล้านบาท เพราะเป็นแนวทางการเพิ่มรายได้ให้กับบริษํทในอนาคตเมื่อสถานการณ์ภาพรวมกลับมาดีขึ้น โดยที่ผ่านมา การดำเนินงานยังคงเป็นไปตามแผนที่จะทยอยเพิ่มที่ดินไม่ว่าในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะมองว่าพื้นฐานระยะยาวของประเทศยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง

"แผนการลงทุนของบริษัทใน 3-5 ปี ข้างหน้าจะกระจายธุรกิจ และการรับรู้รายได้ในธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สาธารณูปโภค น้ำประปา อสังหาฯ ในส่วนของการลงทุนธุรกิจ พลังงาน คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากที่ได้ลงทุนไปในปี 54 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง" นายริชาร์ด กล่าว

ด้านนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ และ ผู้ถือหุ้น HEMRAJ ยอมรับว่า ปัจจุบันราคาหุ้น HEMRAJ ต่ำเกินไป แต่ไม่กังวลเพราะเป็นไปตามปกติที่ภาพรวมตลาดปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจะทยอยเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม เพราะว่าตอนนี้ราคาต่ำกว่าพาร์ที่ 1 บาท ขณะที่พื้นฐานดี มีอัตราการเติบโตดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ