นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ตลท.เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ตลท.มีมติอนุมัติให้ขยายเวลาการกำหนดเงื่อนไขการคิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตจากลูกค้าทั่วไปในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 0.15 ของมูลค่าเงินที่ซื้อขาย(หรือเท่ากับร้อยละ 60 ของอัตราการซื้อขายทั่วไป ที่ต้องซื้อขายผ่านบัญชี Cash Balance หรือบัญชี Credit Balance ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ 1 มีนาคม 2550 ออกไป จนถึงวันที่มีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ จากเดิมอัตราดังกล่าวให้สิ้นสุดการใช้เงื่อนไขดังกล่าว ณ สิ้นปี 2551
สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยบัญชีดังกล่าว ยังคงคิดค่าธรรมเนียมอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 0.20 ของมูลค่าการซื้อขาย(หรือเท่ากับร้อยละ 80 ของอัตราการซื้อขายทั่วไป)
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้ทำหนังสือขอขยายเวลาการกำหนดเงื่อนไขสำหรับหลักเกณฑ์การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตออกไปจนถึงวันที่มีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์
นายสุทธิชัย กล่าวว่า คณะกรรมการ ตลท.เห็นว่าเพื่อส่งเสริมการขยายฐานนักลงทุนกลุ่มใหม่อย่างต่อเนื่อง และเพื่อส่งเสริมการสร้างวินัยสำหรับการลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ต ประกอบกับการเกิดวิกฤตการเงินโลกในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งมีความผันผวน การซื้อขายผ่านบัญชี Cash Balance หรือบัญชี Credit Balance ก็จะช่วยในการลดความเสี่ยง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อระบบธุรกิจหลักทรัพย์โดยรวม
นอกจากนี้ ในระยะที่ผ่านมายังมีการเพิ่มขึ้นของบัญชีซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจึงเห็นควรอนุมัติให้มีการขยายระยะเวลาดังกล่าวตามข้อเสนอของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ตลท.จะจัดให้มีการประชุมร่วมกับสมาชิกและจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อขอความเห็นชอบก่อนประกาศใช้ข้อบังคับฯ ต่อไป
ด้านนายกัมปนาท โลหเจริญวนิช กรรมการ บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ได้ขอยืดอายุการคิดค่าคอมมิชชั่นของอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งในอัตรา 0.15% ออกไปอีก 1 ปี เป็นปี 52 หลังจากที่จะหมดอายุภายในเดือนธ.ค.ปี 51 นี้ เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนมาใช้อินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งที่มีค่าธรรมเนียมถูกกว่าการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ และได้รับความนิยมจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ สมาคมบล. มีแผนที่จะเสนอเรื่องการเลื่อนการเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์ออกไปจากแผนเดิมปี 53 ในช่วงธ.ค.นี้ หลังจากที่ครั้งก่อน ทางก.ล.ต.เห็นว่า การเปิดเสรีเหลือเวลาอีกนานจึงยกเรื่องนี้ออกมาจากการพิจารณาก่อน แต่ทางสมาคมฯ เห็นว่า ครั้งนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม และต้องการให้ก.ล.ต.พิจารณาในเรื่องนี้เพื่อเตรียมความพร้อมเพราะมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อการเปิดเสรีและการที่จะเปิดเสรีจะส่งผลให้มีจำนวนบล.เพิ่มจำนวนมากขึ้น จากปัจจุบันที่มี 40 แห่งก็ถือว่ามากเกินแล้ว