นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) กล่าวว่างวดไตรมาส 3/51 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,514.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.70 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2550 สาเหตุหลักมาจากโรงไฟฟ้าราชบุรีเดินเครื่องอย่างเต็มที่ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงรักษา ทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment) จำนวน 3,371.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 870.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.82
อีกทั้งต้นทุนค่าบริการในการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 231.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 57.86 พร้อมกันนั้นค่าอะไหล่โรงไฟฟ้ายังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 322.72 ล้านบาทหรือร้อยละ 91.97
ทั้งนี้เมื่อไตรมาสที่ 3/50 โรงไฟฟ้าราชบุรีมีการหยุดเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเครื่องที่ 1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมชุดที่ 2 ตามวาระการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ (Major Overhaul) ทุก 6 ปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้าจำนวน 265.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว84.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.56 เนื่องจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ บจ. ราชบุรีเพาเวอร์ ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 เป็นจำนวน 186.80 ล้านบาท จากการที่โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมทั้ง 2 ชุด เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยนั้น บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 11,525.44 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากค่าขายไฟฟ้า จำนวน 11,101.71 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า จำนวน 265.12 ล้านบาท และรายได้อื่น จำนวน 158.61 ล้านบาท
ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 9,450 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนขาย จำนวน 8,928.09 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารและค่าตอบแทนกรรมการ รวมจำนวน 174.94 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ รวมจำนวน 346.97 ล้านบาท
สินทรัพย์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 รวมทั้งสิ้น 68,828.63 ล้านบาท มีหนี้สินรวม จำนวน 29,301.99 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม จำนวน 39,526.64 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.74 เท่า และอัตราส่วนแสดงความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจ่าย (DSCR) อยู่ที่ระดับ 1.59 เท่า