โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะ"หลีกเลี่ยง"หรือ"ขาย"หุ้นบมจ.จีสตีล(GSTEEL)มองธุรกิจเหล็กยังเป็นขาลงและเชื่อว่าราคาในตลาดโลกยังมีโอกาสลงต่อตามภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ทำให้ความต้องการใช้เหล็กลดลง รวมทั้งคาดว่างบในไตรมาส 3/51 จะออกมาขาดทุนจากการตั้งสำรองสต็อกเหล็ก เหมือนกรณีบมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี(SSI)และยังคงขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาส 4/51
ส่วนเรื่องการเจรจาพันธมิตรใหม่ก็ยังมองไม่เห็นอนาคตว่าจะจบได้เมื่อไร ยิ่งสภาวะวิกฤตอย่างนี้เชื่อว่าการเจรจาจะเลื่อนออกไป และเรื่องที่บริษัทจะซื้อหุ้นคืนเห็นว่าเป็นไปได้ยาก เพราะเชื่อว่าบริษัทไม่มีสภาพคล่อง
แต่โบรกเกอร์บางรายมองว่า ยังเล่นเก็งกำไรได้ แต่ให้"ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"โดยเช้านี้ ราคา GSTEEL ปิดที่ 0.42 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาลงไปต่ำสุดที่ 0.39 บาท สวนทางภาพรวมตลาดหุ้นที่ปิดภาคเช้าปรับขึ้นเกือบ 3%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.แอ๊คคินซัน ซื้อเมื่ออ่อนตัว 0.35-0.37 (ราคเทคนิค)
บล.กิมเอ็ง ยังไม่ถึงเวลา -
บล.กสิกรไทย หลีกเลี่ยง -
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ขาย กำลังปรับราคา
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊คคินซัน กล่าวว ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/51 ของ GSTEEL ยังน่าเป็นห่วงและคาดว่าจะขาดทุน หลังจากที่ SSI ประกาศผลขาดทุน 1.3 พันล้านบาทในไตรมาส 3/51 ซึ่งเป็นผลจากการตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ สิบเนื่องจากราคาเหล็กปรับตัวลดลง
ขณะที่ข่าวการเจรจากับพันธมิตรใหม่ยังไม่คืบหน้า โดยเฉพาะเมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว น่าจะทำการเจรจาต้องเลื่อนออกไปก่อน
"เราวิตกเรื่องผลประกอบการ คิดว่าช่วงหลังผลประกอบการออก ซึ่งมองว่า สัปดาห์หน้าอาจจะเป็นจังหวะเข้าซื้อ โดยให้เข้าซื้อเมื่ออ่อนตัวลงมา"นายรณกฤต กล่าว
ทั้งนี้ ให้กรอบเข้าซื้อทางเทคนิค ที่ 0.35-0.37 บาท โดยที่ผ่านมาราคาลงไปต่ำสุดที่ 0.31 บาท
ด้านนายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น GSTEEL ยังไม่น่าสนใจลงทุน เพราะราคาเหล็กในตลาดโลกปรับตัวลดลงมากจากราว 1 พันเหรียญ/ตัน มาอยู่ที่ 700 เหรียญ/ตันในปัจจุบันและยังมีแนวโน้มลดลงอีก และคิดว่ายังไม่ถึงจุดต่ำสุด
"ธุรกิจเหล็กช่วงนี้ยังไม่น่าสนใจ รอให้ราคาเหล็กขึ้นมาก่อน จึงเป็นจังหวะเข้าซื้อ GSTEEL ก็รวมด้วยเพราะคิดว่าไม่สวนกระแสไปได้ ก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ก็รอให้ทิศทางดีขึ้น"นายสุรชัย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมองว่า GSTEEL จะไม่มีกระแสเงินสดมากพอที่จะซื้อหุ้นคืน รวมทั้งการเจรจาพันธมิตรเข้าซื้อหุ้นก็ยังไม่มีความชัดเจน ไม่แน่ใจว่าดีลนี้จะล้มหรือไม่ เพราะวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกมีผลต่อสภาพคล่องทั้งระบบ
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น GSTEEL เพราะคาดว่าในไตรมาส 3/51 จะมีผลขาดทุนจากสต็อกเหล็ก และในไตรมาส 4/51 ก็ยังขาดทุนต่อเนื่อง แต่สำหรับข่าวเรื่องพันธมิตรที่จะเข้ามาซื้อหุ้น ก็จะมีการเก็งกำไรเป็นระยะๆ
"หุ้น GSTEEL ไม่น่าซื้อเลยเรามองราคาเหล็กได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ซึ่งจะกระทบกับราคาเหล็กต่อไป มองในแง่ sentiment ยังไม่น่าซื้อ"นายกวี กล่าว
ด้านนายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สถาบันวิจัย บล.นครหลวงไทย กล่าวหุ้น GSTEEL เมื่อดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้วแนะนำ"ขาย" เพราะภาพรวมผู้ประกอบการในกลุ่มเหล็ก ไม่ว่าจะเป็น SSI หรือ GSTEEL น่าจะเห็นผลขาดทุนจากสต็อกเหล็กในไตรมาส 3/51
แต่ในไตรมาส 4/51 ก็คงขาดทุนลดลง แต่ผลการดำเนินงานโดยทัวไปยังมีความเสี่ยงอยู่ เพราะรายได้ลดลงจากความต้องการที่หดตัวลง จึงคาดว่าในไตรมาส 3/51 จะมีผลประกอบการแย่ที่สุดในปีนี้ ซึ่งสถาบันก็อยู่ระหว่างการปรับเป้าหมายใหม่
เพราะฉะนั้นราคาหุ้นโดยรวมของกลุ่มนี้ ก็จะน่าจะใกล้จุดต่ำสุด โดยมองจาก P/B ก็ต่ำมาก คงไม่จำเป็นต้องขายออกมาหากถืออยู่ แต่ถ้ายังไม่ได้ถือหุ้นตัวไหนในกลุ่มนี้ก็แนะนำให้ถือหุ้น บมจ.ทาทาสตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH
"สำหรับ GSTEEL ผมคิดว่ายังไม่มีความโดดเด่นในมุมของเรา เพราะเรายังคิดว่าเราเทียบแล้วเราเลือกซื้อตัวที่มั่นใจที่สุด ซึ่งโดยรวมๆเห็นว่าราคาหุ้นกลุ่มเหล็กราคาต่ำแล้ว"นายสุกิจ กล่าว
ส่วนเรื่องการเจรจาพันธมิตร มองว่าเป็นเรื่องระยะยาว เพราะขณะนี้ความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกลดน้อยลง ดังนั้น เรื่องพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาอาจต้องใช้เวลาเจรจามากขึ้น