แหล่งข่าวจากสายการลงทุน บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า หากประเมินจากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในเวลานี้แล้ว มีความเป็นไปได้มากที่จะต้องเลื่อนการเสนอขายหุ้น IPO ไปเป็นปีหน้า(2552) จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะเสนอขายภายในปีนี้(2551) เนื่องจากมองแล้วเห็นว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ภาวะตลาดหุ้นไทยก็คงจะยังไม่ดีขึ้น
"เท่าที่ดูพรุ่งนี้ก็เข้าเดือนพฤศจิกายนแล้ว ทิศทางของตลาดฯยังคาดว่าจะยังไม่ดี แล้วเดือนธันวาคม ก็ไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าเทรดในตลาดฯ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้น IPO ของกรุงเทพประกันชีวิต จะต้องเลื่อนไปขายในปีหน้า(2552) โดยเราคาดว่าสถานการณ์ตลาดฯคงจะยังไม่ได้ดีขึ้นแบบปุ๊บปั๊บทันที เพราะไหนจะเรื่องของการเมืองในประเทศ และยังเรื่องของเศรษฐกิจโลกอีก"แหล่งข่าวจากกรุงเทพประกันชีวิต กล่าว
แหล่งข่าวจากกรุงเทพประกันชีวิต กล่าวอีกว่า ถึงเวลาที่จะต้องเสนอขาย IPO จริง ๆ ก็จะมีการหารือกันก่อนว่าจะต้องมีการปรับช่วงราคาเสนอขายหรือไม่ โดยขณะนี้ยังคงกำหนดช่วงราคาขาย IPO ไว้เท่าเดิมที่ 12.5-14 บาท/หุ้น
บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 16.67% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯจะนำหุ้นทั้งหมดเข้าไปจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อจะนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน และเพิ่มเงินกองทุนของบริษัทให้แข็งแกร่ง สร้างความน่าเชื่อถือต่อคู่ค้า และรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต โดยกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ ได้แก่ การขยายเครือข่ายตัวแทน การพัฒนาประสิทธิภาพการขยายตลาดผ่านธนาคาร และการให้ความสำคัญกับการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท 5 อันดับแรก ประกอบด้วย กลุ่มโสภณพนิช ถือหุ้น 38.66% หลังขาย IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 32.22%, กลุ่มนิปปอนไลฟ์ อินชัวรันส์ ถือหุ้น 25% หลัง IPO จะเหลือสัดส่วน 20%, กลุ่มธนาคารกรุงเทพ ถือหุ้น 9.28% หลัง IPO จะเหลือสัดส่วน 7.73%, กลุ่มลิมทรง ถือหุ้น 8.45% หลังขายเหลือสัดส่วน 7.04% และ บมจ. กรุงเทพประกันภัย ถือหุ้น 5.12% ภายหลังจะลดเหลือ 4.26%