นายปิยะ จงวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บมจ. พัฒน์กล (PATKL) เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานราชบุรีเอทานอล ของกลุ่มโรงงานน้ำตาลราชบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิต 150,000 ลิตรต่อวัน ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ครบ 100% แล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการเดินเครื่องทดสอบการผลิตเอทานอล โดยใช้กากน้ำตาลและมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ
สำหรับรายได้จากการก่อสร้างโรงงานราชบุรีเอทานอลนั้นได้ทยอยรับรู้ตามความคืบหน้าของงาน และจะรับเงินงวดสุดท้ายพร้อมการส่งมอบภายในไตรมาสที่ 4 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นฐานผลิตเอทานอลของโลก เนื่องจากไทยมีความพร้อมของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นอ้อยและมันสำปะหลังที่เพียงพอต่อการนำไปผลิตเอทานอลเพื่อนำไปใช้เป็นพืชพลังงาน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการนำไปบริโภค อีกทั้งนโยบายของภาครัฐที่จัดทำแผนยุทธศาสตร์การผลิตอ้อยและมันสำปะหลังเป็นพลังงานทดแทนที่มีความชัดเจน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและโอกาสให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนผลิตเอทานอลในไทยเพิ่มขึ้น โดยในการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลนั้น บริษัทฯจะใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีการผลิตและการออกแบบ
โรงงานจาก Katzen International จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีจุดแข็งในเรื่องของการประหยัดพลังงานและการทำงานของเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นักลงทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นให้ความสนใจที่จะเข้ามาตั้งโรงงานในไทย เพราะไทยมีต้นทุนในการผลิตเอทานอลต่ำ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาที่ใช้ข้าวโพดมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล แต่ปัจจุบันราคาต้นทุนข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หลายโรงงานต้องหยุดการผลิต และนักลงทุนเหล่านี้ก็มองหาประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีแหล่งวัตถุดิบผลิตเอทานอลที่มีต้นทุนต่ำ
“เรามีความพร้อมในเรื่องวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพืชอาหารและหากภาครัฐมีนโยบายการผลิตเอทานอลเป็นวาระแห่งชาติและการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ อี 85 ที่ชัดเจน จะทำให้ภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ เข้ามาลงทุนผลิตเอทานอลในไทยเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในประเทศและเป็นฐานในการส่งออกไปยังต่างประเทศในอนาคตได้"นายปิยะ กล่าว