ผู้บริหาร บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล (UKEM) คาดราคาหุ้นที่พุ่งแรงในวันนี้น่าจะมาจากการคาดการณ์ของนักลงทุนว่างบไตรมาส 3/51 จะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า
ในด้านการดำเนินธุรกิจนั้น ฝ่ายบริหารตั้งเป้ารายได้ในปี 51 เติบโตในระดับ 30-40% มาที่ 2.8 พันล้านบาท และน่าจะเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า เนื่องจากขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเป็นตัวแทนส่งออกโซลเว้นท์เพิ่มเติมน่าจะสรุปในปลายปีนี้ และเจรจาเข้าเทคโอเวอร์ธุรกิจเคมีภัณฑ์ จะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในต้นปี 52 โดยขณะนี้บริษัทมีแผนจะขยายตลาดโซลเว้นท์เดิม และเตรียมพร้อมทำตลาดสินค้าโซลเว้นท์ตัวใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มอีก 1-2 ตัวในปีหน้า
ผู้บริหาร UKEM ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทไม่มีแผนจะซื้อหุ้นคืน เพราะยังต้องการเงินไว้ใช้ลงทุนขยายธุรกิจ และลดภาระดอกเบี้ย ขณะที่แผนเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์ คงจะได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าวอร์แรนต์จะเข้าเทรดได้ไม่เกิน ม.ค.52 โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ยังยืนยันที่จะคงสัดส่วนหุ้นไว้ในระดับเดิมต่อไป
นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ UKEM เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ราคาหุ้น UKEM วันนี้พุ่งขึ้นแรง ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่ที่เข้ามาเล่นคาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไร โดยคาดหวังว่าผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 3/51 จะออกมาดี
"แม้ว่าเรื่องการคาดการณ์งบฯไตรมาส 3/51 จะออกมาดีจะเคยเป็นข่าวมาแล้ว 2 สัปดาห์ และในช่วงนั้นราคาหุ้นก็ยังคงไม่กระดิกเท่าไร อาจเป็นเพราะว่านักลงทุนเองก็รอจังหวะที่จะซื้อ และวันนี้เมื่อตลาดฯอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวขึ้น ก็เลยเป็นจังหวะที่นักลงทุนอาจจะเข้ามาเล่นเก็งกำไร"นายพีรเจต กล่าว
บริษัทฯประกอบธุรกิจในลักษณะเทรดดิ้ง ดังนั้นสต็อคสินค้าจึงมีไม่มาก ข้อผูกพันระหว่างบริษัทฯกับลูกค้า และกับซัพพลายเออร์ก็จะสั้นมาก เพราะเรามีออเดอร์ล่วงหน้าแค่ 1 เดือน ดังนั้นความยืดหยุ่นของบริษัทฯจึงมีสูง ไม่ว่าตลาดฯจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง บริษัทฯก็จะปรับตัวได้ทันการ แล้วพอดีในช่วงไตรมาส 3/51 ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลง ซึ่งก็ทำให้บริษัทฯได้ผลดีจากตรงนี้ด้วย ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่างบฯไตรมาส 3/51 ของบริษัทฯน่าจะออกมาดีใช้ได้ ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 4/51 ของบริษัทฯก็คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดหุ้น UKEM ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 1.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.41 บาท(+46.07%)มูลค่าซื้อขาย 14.95 ล้านบาท
*ยังไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน, กลุ่มผถห.ใหญ่ยันไม่ขายทิ้งหุ้น
นายพีรเจต กล่าวว่า เวลานี้บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นคืน ไม่ว่าราคาหุ้นจะอยู่ที่เท่าไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทฯอยากที่จะเอาเม็ดเงินที่มีไว้ใช้ในการขยายธุรกิจ และลดดอกเบี้ยมากกว่า เพื่อที่จะทำให้องค์กรเข้มแข็งขึ้น
"เรายังไม่คิดที่จะซื้อหุ้นคืน ไม่ว่าราคาหุ้นจะอยู่ในระดับเท่าไรก็ตาม เพราะเราอยากจะเอาสภาพคล่องมาใช้ในการขยายธุรกิจ ลดดอกเบี้ยมากกว่า เพื่อทำให้องค์กรมีความเข้มแข็งขึ้น"นายพีรเจต กล่าว
นายพีรเจต กล่าวอีกว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ UKEM ก็ยังไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมา โดยทุกวันนี้ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเท่าเดิม
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ UKEM 5 อันดับแรก ล่าสุดเมื่อ 28 สิงหาคม 2551 ประกอบด้วย นางกาญจนา สุวรรณนภาศรี ถือหุ้น 51.00%, น.ส.ปรีชญา วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ถือหุ้น 9.91%, นายอนุชา เอกเสน ถือหุ้น 3.79%, นายธีระศักดิ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ถือหุ้น 3.61% และ น.ส.ศรีอุบล อินทรอำนวย ถือหุ้น 3.51%
*คาดรายได้ปีนี้ทำได้ 2,800 ลบ. โต 30-40% จากปีก่อน
นายพีรเจต กล่าวว่า ภาพรวมรายได้ทั้งปี 2551 บริษัทฯคาดว่าจะทำได้ประมาณ 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30-40% จากปี 2550 ที่มีรายได้อยู่กว่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจมากแล้ว
ส่วนเป้าหมายรายได้ในปี 2552 หากทำได้ 2,800-3,000 ล้านบาท ก็ถือว่าดีแล้ว ในช่วงที่มีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจจะถดถอย โดยปี 52 บริษัทนมีแผนที่จะขยายตลาดโซลเว้นท์เดิมที่ทำอยู่ และคาดว่าจะได้สินค้าโซลเว้นท์ชนิดพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก 1-2 อย่าง ซึ่งสินค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นมานี้คาดว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯเพิ่มขึ้นปีละ 40 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ คาดว่าส่วนนี้จะใช้เงินลงทุนไม่มากเนื่องจากวอลุ่มไม่ใหญ่
"แต่ตอนนี้เรามองอีกดีลหนึ่งอยู่ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออก โดยเราจะเป็นตัวแทนการส่งออก ซึ่งสินค้าก็ยังคงเป็นโซลเว้นท์ เหมือนเดิม แล้วเวลานี้ก็เจรจาไปแล้วบางส่วน หากดีลนี้สำเร็จ ก็ให้รายได้ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นมากในปีหน้า(2552) เพราะดีลนี้ถือว่ามีวอลุ่มค่อนข้างมาก คาดว่าน่าจะรู้ผลในสิ้นปีนี้(2551)"นายพีรเจต กล่าว
*แผน takeover ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ยังเจรจาอยู่ คาดชัดเจนขึ้นไม่เกินต้นปี 52
รองกรรมการผู้จัดการ UKEM กล่าวว่า แผนการเทคโอเวอร์(takeover)ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ขณะนี้ยังเจรจาอยู่ โดยเวลานี้กำลังรอดูงบฯปีนี้(2551)ว่าจะออกเป็นอย่างไรบ้าง และหากเข้าไปลงทุนแล้วจะสร้างประโยชน์อะไรให้กับบริษัทฯได้บ้าง ซึ่งเวลานี้รายละเอียดต่าง ๆ ยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะชัดเจนขึ้นได้อย่างเร็วในสิ้นปีนี้(2551) อย่างช้าก็ไม่น่าจะเกินต้นปี 2552
"แผนการเทคโอเวอร์ธุรกิจเคมีภัณฑ์ยังห่างไกล เดิมที่ข่าวมันหลุดออกไปตอนที่เราไปเยี่ยมชมธุรกิจ ตอนนั้นก็ยังไม่คิดอะไรชัดเจน แค่เห็นว่าธุรกิจมันเกี่ยวข้องกันกับบริษัทฯก็เท่านั้น ซึ่งธุรกิจเคมีภัณฑ์นี้ก็ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 10 ปี เป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ หากเราจะเข้าไปเทคฯก็คิดว่าจะใช้เงินไม่มาก แล้วถ้าจะเทคฯก็ต้องคิดแล้วว่าจะทำให้ธุรกิจของเราดีขึ้นได้"รองกรรมการผู้จัดการ UKEM กล่าว
*คาดวอร์แรนต์เข้าเทรดไม่เกินม.ค.52
นายพีรเจต กล่าวว่า แผนการเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวน 330 ล้านหุ้น พร้อมแจกวอร์แรนต์ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่ ในเรื่องนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ และในช่วงเย็นวันเดียวกันก็จะนำเรื่องเพิ่มทุนนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนฯและวันขึ้นเครื่องหมาย
ดังนั้นคาดว่าวอร์แรนต์ของบริษัทฯน่าจะเข้าเทรดในตลาดฯได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ปีนี้(2551)อย่างช้าไม่เกินต้นเดือนมกราคม 2552
ก่อนหน้านี้ที่บอร์ดของ UKEM ได้มีมติอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 330,000,000 หุ้น เพื่อออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.25 บาท พร้อมมีมติให้บริษัทออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 220,000,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในอัตราส่วนการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 3 หุ้นสามัญต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 หน่วย ในราคาหน่วยละ 0.00 บาท