ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งช่วยสกัดกั้นการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารเอาไว้ได้ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้นหลังจากโพลล์สำรวจบ่งชี้ว่าหากบารัค โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครต ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ จะเป็นผลดีต่อตลาดการเงิน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 65.94 จุด หรือ 1.51% แตะที่ 4,443.28 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,348.29-4,443.28 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น โดยหุ้นเอ็กซ์สตราตาพุ่งขึ้น 10.3% ส่วนเวแดนตารีซอร์สเซสพุ่งขึ้น 7.3% แต่หุ้นลอนมินร่วงลง 3.4 % หลังจากผู้ผลิตพลาตินั่มรายนี้แจ้ง ต่อสหภาพแรงงานว่าอาจมีการปลดคนงานออก หลังจากผู้ผลิตรถยนต์ลดความต้องการ ซื้อพลาตินั่มลงเป็นจำนวนมาก หุ้นริโอ ตินโตพุ่งขึ้น 1.3 % หลังจากริโอ ตินโตแถลงว่า โครงการแร่อิลมีไนท์ แห่งใหม่กำลังเดินหน้าต่อไป และคาดว่าโครงการส่วนใหญ่ของริโอ ตินโตอยู่ในสถานะที่ แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทุกรูปแบบ
นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษในวันพฤหัสบนี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารทั้งสองจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางจีน และธนาคารญี่ปุ่น (บีโอเจ)