นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหาร/กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 75 ล้านบาท หรือจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน 25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน คิดเป็นร้อยละ 9.94 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2552
นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ CIG กล่าวว่า ปัจจุบันราคาหุ้น CIG ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ถือว่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ฯ มาก การซื้อหุ้นคืน นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการเงินแล้ว ในแง่ของผู้ถือหุ้นก็จะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทฯ จะซื้อคืนไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล และจะทำให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น และที่สำคัญคือ บริษัทฯ จะมีสินทรัพย์สภาพคล่อง และส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง ราคาหุ้นก็จะมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม หลังจากแผนดังกล่าวประกาศออกมา ทำให้ภาวะการซื้อขายหุ้นของ CIG และใบสำคัญแสดงสิทธิ CIG-W1 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อหุ้นที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมา ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดรวม ปัจจุบันบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 เท่ากับ 127.49 ล้านบาท หนี้สินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน เท่ากับ 490.39 ล้านบาท โดยเมื่อคำนวณจากสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 1,097.72 ล้านบาท เทียบกับหนี้สินหมุนเวียน จำนวน 790.68 ล้านบาท จะเห็นว่าบริษัทฯ ยังมีความสามารถในการชำระหนี้และมีสภาพคล่องคงเหลือเพียงพอที่จะซื้อหุ้นคืนได้
ทั้งนี้ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทไม่ได้มีเปลี่ยนแปลง และการที่ราคาหุ้นเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นเพราะนักลงทุนมองเห็นว่า เป็นราคาที่ถูก เลยเข้ามาลงทุนเพิ่ม การดำเนินธุรกิจของบริษัทก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เป้าหมายรายได้ในปี 2551 ก็ยังเชื่อว่าจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"นอกจากรายได้เดิมจากธุรกิจคอลย์ เราคาดว่าปีหน้ายังจะมีรายได้เสริมในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่เกาะสมุย จ. สุราษฏร์ธานีเข้ามาด้วย และ จากปัญหาวิกฤตการทางการเงินของสหรัฐนั้น ทาง CIG ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากบริษัทเรากระจายการส่งออกสินค้าไปในหลายต่าง ๆ เช่น ยุโรป อเมริกา และ แถบตะวันออกกลาง" นายอารีย์ กล่าว