ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กนลท.มั่นใจตลาดแข็งแกร่งปลายปี หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 305.45 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 5, 2008 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะทะยานขึ้นทำสถิติที่แข็งแกร่งในช่วงปลายปี และไม่ให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดาวโจนส์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงที่ชาวอเมริกันกำลังตื่นตัวเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 305.45 จุด หรือ 3.28% ปิดที่ 9,625.28 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 39.45 จุด หรือ 4.08% ปิดที่ 1,005.75 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 53.79 จุด หรือ 3.12% ปิดที่ 1,780.12 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.31 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.34 พันล้านหุ้น

เอ็ดเวิร์ด ยาร์เดนี นักวิเคราะห์อิสระในย่านวอลล์สตรีทกล่าวว่า ดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่มีการซื้อขายในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หรือนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2527 ซึ่งเป็นปีที่โรนัลด์ เรแกนด์ มีชัยชนะเหนือวอลเตอร์ มอนเดล ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

"นักลงทุนบางกลุ่มเชื่อว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะทำสถิติทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งยังคงให้น้ำหนักกับโพลล์หยั่งเสียงนักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทว่า หากบารัค โอบามา ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งวันที่ 4 พ.ย. จะทำให้เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท มากกว่าจอห์น แมคเคน ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน" เยร์เดนีกล่าว

สำนักข่าว CNN รายงานว่า โอบามา คว้าชัยชนะขาดลอยในเมืองดิกซ์วิลล์ นอทช์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งเป็นเมืองแรกของสหรัฐทีเปิดหีบเลือกตั้งนับตั้งแต่นาทีแรกของวันอังคารที่ 4 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น โดยโอบามาเอาชนะแมคเคน อยู่ 15-6 แต้ม และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 ที่ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในเมืองนี้

ดิกซ์วิลล์ นอท์ช ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ที่มีประชากรอยู่ประมาณ 75คน ถือเป็นเมืองแรกของสหรัฐที่เปิดคูหาให้ประชาชนออกไปใช้ตั้งแต่นาทีแรกหลังเที่ยงคืน ซึ่งชาวเมืองดิกซ์วิลล์ นอท์ช ก็ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตั้งแต่ปี 1960

ผลการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทยังบ่งชี้ด้วยว่า มูลค่าพอร์ทการลงทุนในหุ้นจะพุ่งขึ้นหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง โดยข้อมูลจากบริษัท Bespoke Investment Group ระบุว่าในช่วงระยะเวลา 7 ครั้งที่พรรคเดโมแครตครองอำนาจทางการเมืองในสหรัฐ อย่างเบ็ดเสร็จ โดยเป็นทั้งประธานาธิบดี และครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 14.7% โดยเฉลี่ย ขณะที่ในช่วงระยะเวลา 8 ครั้ง ที่พรรครีพับลิกันเป็นประธานาธิบดี ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 7.4%

หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดขึ้น 4.3% หุ้นอัลโคซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียม พุ่งขึ้น 3.5% และหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขยับขึ้น 1.19%

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะร่วงลงอีก 200,000 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 และคาดว่าดัชนีภาคการผลิตจะทรุดตัวลงรวดเร็วสุดในรอบ 7 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ