นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) เชื่อว่า ปีหน้ารายได้ยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์ทั้งคอนเสิร์ตและสื่อโฆษณาในห้าง จึงทำให้ในปีหน้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท จากปีนี้ที่ 400 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากที่ประมาณการณ์ไว้ 600 ล้านบาท เนื่องจากการที่คอนเสิร์ตได้เลื่อนออกไป 1 รายการ รวมทั้งมีการเลื่อนเปิดตัวภาพยนตร์ ไปเป็นปีหน้า 1 เรื่องที่ตอนแรกจะเปิดตัวปีนี้ 2 เรื่อง
ส่วนคอนเสิร์ตที่จะเล่นในเดือน ธ.ค.นี้ จะยังมีอยู่แน่นอน โดยขณะนี้มียอดขายบัตรแล้ว 80% จะรับรู้ไตรมาส 4 นี้เลย
สำหรับเรื่อง"ท้าชน" คาดว่าจะมีรายได้ 40 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ปีนี้ครึ่งหนึ่ง จากเงินลงทุนทั้งในส่วนของ ADAM เองและพันธมิตรรายอื่นๆ รวม 12 ล้านบาท ส่วนหนังอีกเรื่องที่เลื่อนเปิดตัวเป็นแนววัยรุ่น ใช้เงินลงทุนใกล้เคียงกัน
"เราได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น คอนเสิร์ตจะขายโฆษณากับสปอนเซอร์ให้ได้ก่อนที่คอนเสิร์ตจะมีขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง เพราะไม่มีใครคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
นายกิตติวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัท ต้องเร่งกระตุ้นในการเข้าหาลูกค้ามากขึ้น อย่างการโฆษณาผ่านสื่อในห้าง ก็จะยอมได้เปอร์เซ็นต์ลดลงแต่ก็จะเน้นการขายและติดตั้งจอโฆษณาในปริมาณมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้มีการเซ็นสัญญาติดตั้งจอโฆษณากับกลุ่มเซ็นทรัลอีกประมาณ 60 ล้านบาท และยังมีรายได้จากการติดตั้งจอโฆษณาในบิ๊กซีอีกประมาณ 60-70 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 10 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
นายกิตติวัฒน์ กล่าวว่า เชื่อว่าในไตรมาส 4 มีกำไรแน่นอน จากการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทำให้เชื่อว่าจะมาสามารถพลิกมามีกำไร ถึงแม้ไตรมาส 3 จะปรับตัวดีขึ้นแต่ก็ยังมีผลขาดทุนอีกนิดหน่อย
ในส่วนของการนำบริษัท แอปโซลูท อิมแพ็ค จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ นายกิตติวัฒน์ คาดว่าจะเห็นการเข้าเทรดในช่วงเดือนกลางเดือน ธ.ค.นี้แน่นอน เพราะเชื่อว่าไม่นาน ก.ล.ต.จะอนุมัติไฟลิ่งได้ โดยจะทำการเสนอขายหุ้นสามัญ 80 ล้านหุ้น เม็ดเงินจากการระดมทุนจะนำไปขยายธุรกิจสื่อโฆษณาในห้างเพิ่มเติม