ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยและกระแสตอบรับนายบารัค โอบามา ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มแผ่วแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ ลดคาดการณ์ผลประกอบการและบริษัทค้าปลีกหลายแห่งเปิดเผยยอดขายที่ซบเซาในเดือนต.ค.
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 443.48 จุด หรือ 4.85% ปิดที่ 8,695.79 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 47.89 จุด หรือ 5.03% ปิดที่ 904.88 จุด และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 72.94 จุด หรือ 4.34% ปิดที่ 1,608.70 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 5.96 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันพุธที่ 5.29 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1
เอ็ด เฮย์แลนด์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ไพรเวท แบงค์ กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปแล้วกว่า 10% นับตั้งแต่โอบามาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเหนือนายจอห์ แมคเคน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2535 ที่สมาชิกพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งทั้งสองสภา และยังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐผิวสีคนแรกของทำเนียบขาว
"ส่วนในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงหลังจากบริษัท ซิสโก ซิสเต็มส์ ปรับลดคาดการณ์ยอดขายในเดือนต.ค. และบริษัทค้าปลีกหลายแห่งเปิดเผยยอดขายที่ย่ำแย่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยในยามที่เศรษฐกิจหดตัวเช่นนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดสภาพคล่องในอุตสาหกรรมรถยนต์และธุรกิจการเงิน" เฮย์แลนด์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ได้แก่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป, ฟอร์ด มอเตอร์ โค และไครสเลอร์ แอลแอลซี จะเข้าพบนางแนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ หลังจากที่บรรดาผู้บริหารค่ายรถยักษ์ใหญ่เหล่านี้ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์
ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักในเดือนที่แล้วสู่ระดับที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 และจีเอ็ม ค่ายรถสหรัฐซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดีทรอยต์ รายงานผลประกอบการขาดทุนแล้วเกือบ 70 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปลายปี 2547
โอบามา ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธีบดีคนที่ 44 ของสหรัฐ ได้กล่าวในระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า การให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ถือเป็น "ภารกิจเร่งด่วน" ซึ่งรัฐบาลควรจัดหาเงินทุนให้อุตสาหกรรมดังกล่าวให้มากเท่าที่จำเป็น พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้นโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในสหรัฐ รวมถึงการสนับสนุนให้มีการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย หลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลงมากที่สุดในรอบ 6 ปีในเดือนต.ค. ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐหดตัวลง อย่างรุนแรงในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนต.ค.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.จะร่วงลงอีก 200,000 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 และคาดว่าดัชนีภาคการผลิตจะทรุดตัวลงรวดเร็วสุดในรอบ 7 ปี
ทั้งนี้ หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 2.6% ขณะที่หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ร่วงลง 16.5% หลังากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายและผลประกอบการ ส่วนหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 5.3%
ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงถ้วนหน้า โดยหุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลง 64 เซนต์ ปิดที่ 53.49 ดอลลาร์ หุ้นลิมิเต็ด สโตเรส ร่วงลง 9.6% และหุ้นแอน เทย์เลอร์ สโตเรส ดิ่งลง 26%