ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) แม้ธนาคารกลางอังกฤษมีมติลดอัตราดอกเบี้ยมากเกินความคาดหมาย 1.5% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวอาจไม่มากพอที่จะยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 258.32 จุด ปิดที่ 4,272.41 จุด
ไซมอน คาร์เตอร์ นักวิเคราะห์จาก Aegon Asset Management กล่าวว่า ในช่วงแรกนั้น ดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกหลังจากธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 1.5% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ แต่หลังจากนั้นไม่นานดัชนีเริ่มถอยลงสู่แดนลบ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้อาจไม่มากพอที่จะยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะลดดอกเบี้ย 0.50% เหมือนกับธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก โดยธนาคารกลางอังกฤษไม่เคยปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.50% นับตั้งแต่เป็นอิสระจากการดูแลของรัฐบาลอังกฤษในปีพ.ศ.2540
ผลสำรวจของสถาบัน GfK NOP ระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2527 จากวิกฤตการเงินที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ขณะที่เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ ระบุว่าราคาบ้านในเดือนนี้ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2534
หุ้นกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพีดิ่งลง 5.7% หุ้นริโอทินโตร่วงลง 15% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 15%