AHเสนอซื้อหุ้นคืนเข้าบอร์ดสัปดาห์หน้า กำไรปีนี้โตจากปี 50แม้รายได้สูสี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 7, 2008 10:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทจะเสนอโครงการซื้อหุ้นคืนให้ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพราะเห็นว่าขณะนี้ราคาหุ้น AH ปรับตัวลงมาถูกมาก ซึ่งหากนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงนี้ก็ถือเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม

"ดีที่สุดคิดว่าคนไทยมีเงินต้องซื้อหุ้นตอนนี้ ผมว่าดี เพราะหุ้นถูกมาก ๆ การที่บริษัทส่วนใหญ่ในไทยเห็นหุ้นถูกก็ซื้อหุ้นกัน ใช่...เพราะราคาถูกต้องซื้อ ราคาแพงต้องขาย บริษัทมีเงินสดอยู่พอควร ถึงแม้จะเป็นหนี้ธนาคารบางส่วนแต่ก็มีเงินสดพอ"ผู้บริหาร AH กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนด้านการผลิตตามแผนที่กำหนดไว้ โรงงานแห่งใหม่คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย.52 เพื่อรองรับโครงการอีโคคาร์ที่จะเข้าสู่ตลาดในปี 53 โดยอยู่ระหว่างหารือกับลูกค้าเพื่อสรุปปริมาณคำสั่งซื้อ ซึ่งจะใช้งบลงทุนอีก 1 พันล้านบาท ต่อเนื่องจากปีนี้ที่ใช้ไปแล้ว 1 พันล้านบาท

นายเย็บ ชู ชวน กล่าวว่า รายได้ในปีนี้คาดว่าจะโตจากปีที่แล้วประมาณ 5% มาที่ 1.02 หมื่นล้านบาท ปีที่แล้วรายได้รวมอยู่ที่ 9,699 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิน่าจะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 350 ล้านบาท เพราะครึ่งปีแรกมีกำไรแล้ว 258 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายโดยรวมน่ามากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปีนี้จะมีการผลิตรถยนต์ 1.35-1.4 ล้านคัน จากปีที่แล้วอยู่ที่ 1.3 กว่าล้านคัน

"ช่วง 6 เดือนแรกคำสั่งซื้อก็ยังเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน และทั้งปีนี้คำสั่งซื้อก็ยังน่าจะเพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้ปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนหรือโตได้เล็กน้อย แต่เชื่อว่ากำไรจะโตกว่าปีก่อนเพราะเราพยายามที่จะลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทุกอย่าง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลดี"นายเย็บ กล่าว

สำหรับปี 52 ยังอยู่ระหว่างประเมินภาพรวมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ายอดขายรถยนต์จะลดลงจากปีนี้ ส่วนจะลดลงเท่าไหร่กำลังสรุปและสอบถามจากทางโตโยต้า แต่ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในขณะนี้ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ได้ แต่จะมากหรือน้อยอย่างไรยังประเมินได้ยาก

ขณะที่วิกฤตการเงินโลกแม้จะไม่กระทบกับบริษัทโดยตรง เพราะจริงๆ แล้วส่งผลดีต่อธุรกิจส่งออกด้วยซ้ำโดยเฉพาะรถยนต์ เพราะเงินบาทอ่อนค่าลง เนื่องจากเราผลิตส่งออกผ่านค่ายรถยนต์ทั้งโตโยต้า ฮอนด้า และ อีซูซุ แต่คงไม่ได้รับผลดีในแง่ของกำไรอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบริษัทมียอดขายเป็นเงินบาท

ส่วนการขยายธุรกิจในอินเดีย ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องรอให้ปีนี้ผ่านไปก่อน แต่โครงการที่มีแผนจะทำร่วมกับพันธมิตรก็ยังเดินหน้าเจรจากันอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทไม่ได้ส่งออร์เดอร์โดยตรงไปยังอินเดีย แต่ส่งค่ายรถยนต์ เช่น รถปิคอัพ โรงงานฟอร์ดในไทยก็ส่งไปให้อินเดีย และมีทั้งค่ายอีซูซุ นิสสัน มาสด้า

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ AH มีแผนลงทุนสร้างโรงงานในประเทศอินเดีย หากมีออเดอร์ลูกค้าซื้อแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์ 500-600 ล้านบาท ตั้งงบลงทุนเบื้องต้นราว 300 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ