ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ sentiment ตลาดตปท.ดีขึ้น วิกฤตการเงินผ่อนคลาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 10, 2008 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวน์เพราะดูสถานการณ์ช่วงนี้ตลาดต่างประเทศดีขึ้นมาทั้งหมด และช่วงจากตรงนี้ไปมองว่า impact ที่เกิดขึ้นจากวิกฤตการเงินน่าจะมาพิจารณาภาคเรียลเซกเตอร์มากขึ้น เพราะเรียลเซกเตอร์ของไทยเริ่มมีความแตกต่างจากปัญหาที่เกิดขึ้นในยุโรปมากขึ้น ถ้าของเราการเตรียมตัวดีก็น่าที่จะทำให้เกิดการ outperform เมื่อเทียบกับตลาดทางด้านยุโรปได้ และบ้านเราตอนนี้ PR ประมาณ 7.2 เท่า จึงมองว่าถูกและพร้อมที่จะรีบาวน์

"วันนี้มี sentiment จากนิกเคอิ และฮั่งเส็งที่ขึ้นมาประมาณ 5% กว่าก็ช่วยให้เรารีบาวน์ขึ้นมาได้ แนวต้าน 480 จุด แนวรับ 450 จุด" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,943.81 จุด เพิ่มขึ้น 248.02 จุด(+2.85%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 930.99 จุด เพิ่มขึ้น 26.11 จุด(+2.89%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,647.40 จุด เพิ่มขึ้น 38.70 จุด (+2.41%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 104.21 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ย.) ที่ 61.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.27 ดอลลาร์
  • ซีอีโอประเมินธุรกิจไทยรับผลกระทบจากปัจจัยวิกฤติการเงินโลกปี 2552 สูงกว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ เหตุไทยยังต้องพึ่งการส่งออกเห็นชัดจากการคำสั่งซื้อที่เริ่มชะลอตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า ระบุเป็นเหตุการณ์ที่ยากต่อการคาดเดา แนะตั้งรับทำธุรกิจควรใช้ 'แคชโฟลว์' แทนกู้เงินแบงก์เพื่อป้องกันความเสี่ยง หลายอุตสาหกรรมประกาศชะลอแผนการลงทุนใหม่ เหตุกำลังซื้อลดลง
  • กลุ่มค้าปลีกพลิกแผนฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ อิงบทเรียนปี 2540 ยอมรับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน เร่งขยายลงทุนผนึกขั้วพันธมิตร สร้างพลังทำตลาดรูปแบบใหม่ ฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคควบคู่แผนลดต้นทุนเชื่อกลางปีหน้าฟ้าเปิดรับสัญญาณบวก สยามพารากอนเดินหน้ากิจกรรมสีสัน เดอะมอลล์ โชว์แผน 'มัลติคอมเพล็กซ์'
  • กนศ.อนุมัติตั้งกองทุน 8,000 ล้านบาทผ่าน ธสน. ปล่อยกู้เอกชนลงทุนต่างประเทศ ขอคลังใช้เงื่อนไขพิเศษต้านภาษีเงินได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากโรงงานต่างประเทศ เผยล่าสุดมี 314 ราย ภาคเอกชนหวั่นกองทุนไม่ได้ผลทันที เหตุเศรษฐกิจไม่ดีเอกชนชะลอลงทุน ย้ำเงื่อนไขกู้เงินต้องจูงใจ ดอกเบี้ยต่ำ
  • รัฐบาลจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 5.86 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อหยุดยั้งปัญหาวิกฤตภาคการเงิน โดยงบประมาณหลักจะนำไปใช้ลงทุนในภาคสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (รถไฟ, บ้านเอื้ออาทร, ถนน, สนามบิน) และสวัสดิการสังคม (การศึกษา, สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม) ไปจนถึงปี 2553
  • อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับส่งสัญญาณ ปลดคนงาน ปิดกิจการ เผยเจอวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐถล่ม ออร์เดอร์หายวูบ สัดส่วนส่งออกเหลือ 13.89% เหตุจากผู้บริโภคงดซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ราคาทองแท่งผันผวนหนัก ทำให้วัตถุดิบขาดแคลน
  • คลังเสนอขยายมาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาฯเข้าครม.อังคารนี้ อาทิ ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3% เหลือ 0.1% และลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง จาก 2% และ 1% เหลือ 0.01% ห่วงยอดขายลด
  • พบสัญญาณร้ายหลังเศรษฐกิจวิกฤต สภาพคล่องมีแต่ไม่ปล่อยกู้รายใหม่ผวาหนี้เสีย ล่าสุดเดือนที่ผ่านมา 3 ธนาคารหยุดปล่อยกู้สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ มีแบงก์ยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง กับธนาคารย่านสาทรอีก 1 แห่ง ขณะที่เงินกู้ ธ.ก.ส.แสนล้าน โดยการค้ำประกันของรัฐบาลเป็นการซ้ำเติมสภาพคล่อง ดันดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้น สศค.เกาะติดแบงก์รัฐ หวั่นโดนพิษสภาพคล่องตึงตัว สั่งรายงานอย่างละเอียดทุกเดือน
  • ทริสเรทติ้ง ประกาศลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด เป็นระดับ
“BBB-" จากเดิมที่ระดับ “A" ในขณะเดียวกันได้กำหนด “เครดิตพินิจ" (CreditAlert) แนวโน้ม “Negative" หรือ “ลบ" ให้แก่อันดับเครดิตดังกล่าว โดย “เครดิตพินิจ" แนวโน้ม “ลบ" เป็นผลมาจากการที่ฐานเงินทุนและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทถดถอยลงอย่างมาก
  • กระทรวงคลังได้ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อพิจารณาอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนสามารถเปิดเผยการคาดการณ์กำไรสุทธิต่อสาธารณะได้ เพื่อให้นักลงทุนได้รับรู้ถึงการประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างแก้ไขเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนต่ำกว่า 10% ของทุนชำระแล้ว ให้บริษัทจดทะเบียนที่จะดำเนินการสามารถขอมติจากผู้ถือหุ้นโดยเวียนเป็นหนังสือได้ เพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งปัจจุบันเกณฑ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในครึ่งหลังของเดือน พ.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ