เจอร์รี่ โล นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นหลายแห่งให้คึกคึกขึ้น โดยคาดว่าในระยะสั้นนี้ มาตรการดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อกลุ่มบริษัทผลิตเหล็กกล้า บริษัทผลิตวัสดุก่อสร้าง และบริษัทการเงิน
"มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นการดำเนินการอย่างถูกทางและเหนือความคาดหมายของตลาด เราจึงเชื่อว่าข่าวนี้จะกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นหลายแห่งให้คึกคักขึ้น" โลกล่าว
ภายใต้มาตรการมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน รัฐบาลจีนจะจัดสรรงบประมาณมูลค่า 1 แสนล้านหยวนมาใช้เบื้องต้นในไตรมาสนี้ โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการสร้างที่อยู่อาศัยต้นทุนต่ำ, ถนน, ทางรถไฟ, สนามบิน และสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในเมือง ซึ่งมาตรการดังกล่าวซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของตัวเลข GDP จีนปีที่แล้วฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้จนถึงปีพ.ศ.2553
ด้านนายจิ้ง อุลริช หัวหน้านักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า "การที่รัฐบาลจีนทุ่มงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมและปฏิรูปสาธารณูปโภคในเมือง จะช่วยกระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภค และเราเชื่อว่าข่าวนี้จะส่งผลกระทบในด้านบวกต่อตลาดหุ้นอย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะอนุญาตให้มีการลดภาษีซื้อสินทรัพย์คงที่ อาทิ เครื่องจักร เพื่อกระตุ้นการลงทุน และคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทผลิตเครื่องจักรประหยัดต้นทุนได้ถึง 1.20 แสนล้านหยวน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน