หุ้น UKEM ราคาร่วงลงฟลอร์ 29.27% มาอยู่ที่ 0.87 บาท ลดลง 0.36 บาท มูลค่าซื้อขาย 30.88 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.28 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.23 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.23 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.93 บาท
เมื่อ 7 พ.ย.51 ราคาหุ้น UKEM อยู่ที่ 1.23 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท(+5.13%)มูลค่าซื้อขาย 15.97 ล้านบาท
นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ UKEM เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การที่ราคาหุ้น บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล (UKEM)ร่วงลงฟลอร์ในเช้าวันนี้ คาดว่าจะเป็นผลจากการทำดีลบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ทำไปในราคา 0.80 บาท/หุ้น แล้วคนที่ทำดีลคงจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ต้องยอมรับว่าราคาหุ้น UKEM ร่วงลงฟลอร์ในวันนี้ทำให้ Sentiment เสียไป แต่ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.51 ได้เกิดรายการบิ๊กล็อตหุ้น UKEM 4 รายการ จำนวน 20 ล้านหุ้นหุ้นหรือคิดเป็น 3.03% ของทุนชำระแล้วที่มี 660 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 16 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.80 บาท
แต่สิ่งที่อยากจะบอกแก่นักลงทุนก็คือว่า นักลงทุนจะต้องระมัดระวังการลงทุนให้มากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เลย ทางกลุ่มยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 60-70% เท่าเดิม และการทำธุรกิจของบริษัทฯก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ จะประกอบไปด้วยผู้ถือหุ้นในกลุ่มตระกูลสุวรรณนภาศรี, ตระกูลเอกเสน, ตระกูลกิจวานิชเสถียร, ตระกูลไทยทองธิติกุล และตระกูลเธียรวิวรรธน์
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล (UKEM) เช้านี้ร่วงลงแรง คาดว่าจะเป็นขายทำกำไรก่อนถึงวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาและขอมติในเรื่องการเพิ่มทุน นอกจากนี้ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปราว 66% ในช่วงก่อนหน้านี้ จาก 0.86 บาทขึ้นไปถึง 1.45 บาทก่อนปรับตัวลงมา
ทั้งนี้ สัญญาณทางเทคนิคแสดงการปรับฐานในช่วงสั้น หลังจากที่ราคาหุ้นขึ้นไป 1.45 บาทแล้วไม่ผ่าน อีกทั้งราคาหุ้นได้ไหลลงมาต่ำกว่าระดับ 1 บาทจึงมีผลลบในแง่จิตวิทยา อย่างไรก็ดีแนวรับที่ระดับ 0.80-0.90 บาทยังคงแข็งแกร่งอยู่ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1.20 บาท
UKEM ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2551 ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 โดยจะมีการพิจารณาเรื่องการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 330,000,000 หุ้น เพื่อออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.25 บาท พร้อมออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 220,000,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในอัตราส่วนการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 3 หุ้นสามัญต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 หน่วย ในราคาหน่วยละ 0.00 บาท