นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. สตาร์ ซานิทารีแวร์ (STAR)เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/51 มีสินค้าบางส่วนได้ชะลอการส่งมอบไปเป็นไตรมาสที่ 4/51 และรับรู้รายได้ในไตรมาสดังกล่าวแทน ประกอบกับในไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงการส่งมอบสินค้าจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาตลอดปี จึงจะเป็นช่วงที่มีการเติบโตโดดเด่นที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสอื่นๆ ในขณะเดียวกัน STAR ได้ออกสินค้าใหม่เพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าอีกหลายชุด
ดังนั้น คาดว่าจะทำให้แนวโน้มรายได้ของ STAR ในช่วงปลายปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา และสนับสนุนให้รายได้ในปี 2551 เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
อนึ่ง STAR แจ้งผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/51 มีกำไรสุทธิ 0.15 ล้านบาท ลดลง 97.82% เนื่องจากยอดขายตลาดต่างประเทศที่ลดลง ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศ และต้นทุนการผลิตของค่าแก๊ส ไฟฟ้า ค่าขนส่ง รวมทั้งค่าใช้จ่ายขายบริหารเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ลดลงจาก 46.70% เป็น 41.40% จึงกดดันให้กำไรสุทธิของบริษัทลดลง ประกอบกับการเลื่อนส่งมอบสินค้าบางส่วนไปในไตรมาส 4/51
สำหรับแนวโน้มตลาดส่งออกสินค้าสุขภัณฑ์ เชื่อว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากตลาดหลักของ STAR เป็นตลาดยุโรป ที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ประกอบกับ การทำตลาดของบริษัทฯ ในยุโรปเป็นกลุ่มตลาดเฉพาะ (Nich Market) ปริมาณการส่งออกไม่สูงนักเมื่อเทียบกับมูลค่าของตลาดสุขภัณฑ์โลก โดยปัจจุบันยังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมที่สั่งสินค้าเพิ่มขึ้น และลูกค้ารายใหม่
ทั้งนี้ หากในอนาคตการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะกระทบถึงตลาดยุโรป บริษัทฯก็มีแผนรองรับปัญหาดังกล่าว โดยจะหันมาขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าใหม่ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และขณะดียวกันก็จะขยายฐานตลาดในประเทศให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 30% ในปัจจุบัน เป็น 35-40% เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว ส่งสินค้าไปขายต่างประเทศในสัดส่วนถึง 70%