SAMART คาดปี 52 รายได้โต ตามราคาเฉลี่ยไอ-โมบายสูงขึ้น,รับรู้ฯแบ็คล็อค

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 10, 2008 18:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART) คาดว่า รายได้ของกลุ่ม SAMART ในปี 51 น่าจะอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท หรือประมาณ 80%ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ 18,000 ล้านบาท จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ทำให้กำลังซื้อชะลอตัว โดยครึ่งปีแรกมีรายได้ 7,887 ล้านบาท อีก 2 ไตรมาสที่เหลือ คาดว่าน่าจะทำได้อีกประมาณ 7,000 ล้านบาท

ส่วนในปี 52 รายได้น่าจะสูงกว่าปีนี้แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงจากปีนี้ เนื่องจากราคาเฉลี่ยเครื่องโทรศัพท์มือถือไอ-โมบายน่าจะสูงกว่าปีนี้ และบริษัทในเครือยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อีกจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มบริษัทจะพยายามปรับตัวโดยลดค่าใช้จ่าย และพยายามเปลี่ยนสถานะของบริษัทจากหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงมาเป็นหุ้นจ่ายปันผลสูงแทน

นายวัฒน์ชัย คาดว่า รายได้ของบมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL)ในปี 52 จะเติบโตกว่า 100% จาก 3 พันล้านบาทในปีนี้ โดยในระยะ 1-2 เดือนนี้ SAMTEL จะมีการเซ็นสัญญาและรับงานเพิ่มได้อีกประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ Backlog เพิ่มเป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ในปี 52 จะมีมือถือรุ่นใหม่ๆมากขึ้น จากยอดขายเต็มที่ในปีนี้คงทำได้ 4.5 ล้านเครื่องทั้งในและต่างประเทศ ต่ำกว่าเป้าหมาย 5 ล้านเครื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะอินเดียและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลัก แต่ปีหน้าคาดว่ายอดขายมือถือจะเพิ่มขึ้น และราคาเฉลี่ยต่อเครื่องเพิ่มขึ้นจากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6-2.7 พันบาท/เครื่อง นอกจากนี้ในปีหน้าจะขยายตลาดไปในตะวันออกกลาง และเจรจากับโอเปอเรเตอร์ในต่างประเทศเพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น

ส่วนการชำระหนี้ของบมจ.ทีโอที จำนวน 1.4 พันล้านบาทหลังจากเจรจากันแล้ว คงจะบันทึกเป็นรายได้ในไตรมาส 4/51 แต่จะเป็นส่วนของกำไรไม่มากนัก

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า แม้ว่าในปี 52 สภาพเศรษฐกิจยังคงน่าเป็นห่วง กำลังซื้อหดตัว และจะเกิดการแข่งขันที่เข้มข้นอย่างแน่นอนทั้งจากคู่แข่งภายในและภายนอก แต่หากมองให้ทะลุและคิดในทางบวกก็ยังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เช่น การที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มงบประมาณกลางปีอีก 1 แสนล้านบาท จะช่วยเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ

ภาคเอกชนลดการลงทุนและมีแนวโน้มในการใช้บริการ Outsource มากขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายมีสูงขึ้น รวมทั้ง การพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ เช่น 3G จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมากมาย

"จากโครงการที่คาดว่าจะ bid ได้ทั้งหมดในปีนี้จะส่งผลให้รายได้ของกลุ่ม Samart Telcom เติบโตขึ้นกว่าเท่าตัวแน่นอนในปีหน้า ส่วนกลุ่ม i-mobile เราได้เตรียมรับสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง ด้วยการนำเสนอมือถือรุ่นใหม่ที่แตกต่างและให้ความคุ้มค่าสูงสุด รวมทั้งการให้บริการที่สร้างมั่นใจให้กับลูกค้า กล่าวได้ว่า มือถือ i-mobile จะต้องครองความเป็นหนึ่งในตลาด House brand อย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งในปีหน้า การนำเทคโนโลยี 3 G เข้ามาใช้ จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนามือถือ และการเติบโตของตลาด Content อย่างมาก ซึ่งทั้ง บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) แ ละ บริษัท สามารถมัลติมีเดีย จำกัด ย่อมจะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะรายได้ประจำจากการให้บริการ Content ได้อย่างแน่นอน" นายวัฒน์ชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าทั้ง 3 บริษัท คือ SAMART SAMTEL และ SIM ยังมีความสามารถในการทำกำไร และสามารถจ่ายปันผลงวดปี 51 ได้อีก หลังจากจ่ายปันผลในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้ว



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ