RATCH เผย Q3 กำไรเพิ่ม 2.7 เท่ารับรู้กำไรบ.ย่อย-รายได้เพิ่มหลังไม่มีหยุดเดินเครื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 11, 2008 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามงบการเงินรวมไตรมาสที่ 3 ปี 2551 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 มีกำไรสุทธิ 2,075.44 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.43 บาท) เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานงวดเดียวกันของปี 2550 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 560.69 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.39 บาท) ปรากฏว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,514.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.70 เท่า

เนื่องจาก ในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 โรงไฟฟ้าราชบุรีไม่มีการหยุดเดินเครื่องเพื่อทำการบำรุงรักษา ในขณะที่ไตรมาสที่ 3 ปี 2550 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี เครื่องที่ 1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี ชุดที่ 2 ได้มีการหยุดเดินเครื่องเพื่อทำ Major Overhaul จึงมีผลทำให้ รายได้ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment : AP) ไตรมาสที่ 3 ปี 2551 จำนวน 3,371.54 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2550 (2,500.74 ล้านบาท) เป็นจำนวน 870.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.82

รวมทั้งค่าบริการในการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า จำนวน 168.72 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2550 (400.42 ล้านบาท) เป็นจำนวน 231.70 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57.86 และ ค่าอะไหล่โรงไฟฟ้า จำนวน 28.19 ล้านบาท ต่ำกว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 2550 (350.91 ล้านบาท) เป็นจำนวน 322.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 91.97

นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้ารวมทั้งสิ้น จำนวน 265.12 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2550 (180.90 ล้านบาท) เป็นจำนวน 84.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.56 โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานของกิจการร่วมค้า 2 แห่ง

ได้แก่ บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด บริษัทฯ รับรู้ผลการดำเนินงานของราชบุรีเพาเวอร์ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 เป็นจำนวน 186.80 ล้านบาท จากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรีเพาเวอร์ชุดที่ 1 และ 2 ได้ทำการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551 และ 1 มิถุนายน 2551 ตามลำดับ

และ บริษัท ไตร เอนเนอจี้ จำกัด บริษัทฯ รับรู้ผลการดำเนินงานของไตร เอนเนอจี้ ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50 เป็นจำนวน 109.76 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานของไตร เอนเนอจี้ลดลง เนื่องจากในระหว่างไตรมาสที่ 3 ปี 2551 ไตร เอนเนอจี้ มีการหยุดเดินเครื่องเพื่อทำ Minor Inspection และซ่อมแซมอุปกรณ์โรงไฟฟ้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ