หุ้น UKEM ราคาดิ่งลง 31.03% มาอยู่ที่ 0.60 บาท ลดลง 0.27 บาท มูลค่าซื้อขาย 136.50 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.39 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.63 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.72 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.52 บาท
ล่าสุดเมื่อ 11.41 น.ราคาหุ้น UKEM อยู่ที่ 0.65 บาท ลดลง 0.22 บาท(-25.29%)มูลค่าซื้อขาย 177.63 ล้านบาท
วานนี้(10 พ.ย.)ราคาหุ้น UKEM ปิดที่ 0.87 บาท ลดลง 0.36 บาท(-29.27%)มูลค่าซื้อขาย 67.66 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้น บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล(UKEM)ร่วงลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้(10 พ.ย.)ที่ราคาไหลงลงมาจนติดเพดานฟลอร์ไปแล้วรอบหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ได้ทยอยเทขายหุ้น UKEM ออกมา ภายหลังผิดหวังที่ UKEM ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่คาดหวังว่า UKEM จะมีเรื่องเพิ่มทุนพร้อมแจกวอร์แรนต์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม พร้อมจะจ่ายเงินปันผลให้ด้วย แต่ปรากฏว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 พ.ย.นี้ มีเพียงเรื่องเพิ่มทุน พร้อมแจกวอร์แรนต์ แต่ไม่มีเรื่องปันผล จึงทำให้กลุ่มนักลงทุนกลุ่มนี้ผิดหวัง และเริ่มมีบางรายเทขายหุ้นออกมาจำนวนมาก จึงทำให้รายอื่น ๆ เทขายตาม
UKEM ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2551 ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 โดยจะมีการพิจารณาเรื่องการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 330,000,000 หุ้น เพื่อออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.25 บาท พร้อมออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 220,000,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในอัตราส่วนการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 3 หุ้นสามัญต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 หน่วย ในราคาหน่วยละ 0.00 บาท
นายชัย จิระเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า สัญญาณทางเทคนิคของหุ้น UKEM อยู่ในทิศทางขาลง จากเดิมที่อยู่แถว 1.60 บาท ปัจจุบันไหลลงมาแถว 0.60 บาท พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 0.50 บาท แนวต้าน 0.80 บาท
นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ UKEM เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"เมื่อวานนี้(10 พ.ย.)ว่า ยอมรับว่าราคาหุ้น UKEM ร่วงลงทำให้ Sentiment เสียไป แต่ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร
แต่สิ่งที่อยากจะบอกแก่นักลงทุนก็คือว่า นักลงทุนจะต้องระมัดระวังการลงทุนให้มากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เลย ทางกลุ่มยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 60-70% เท่าเดิม และการทำธุรกิจของบริษัทฯก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วยผู้ถือหุ้นในกลุ่มตระกูลสุวรรณนภาศรี, ตระกูลเอกเสน, ตระกูลกิจวานิชเสถียร, ตระกูลไทยทองธิติกุล และตระกูลเธียรวิวรรธน์