นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) กล่าวว่า บริษัทยังประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ยังเติบโตได้ 10% จากปีก่อน ซึ่ง 9 เดือนแรก เติบโตได้กว่า 6% และในไตรมาส 4/51 บริษัทได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังการผลิตและไม่มีการหยุดการผลิตเลย
สำหรับรายได้ในปี 52-53 ถึงแม้จะไม่มีโครงการใหม่เข้ามา ก็ยังคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 5% จากบริษัท ราชบุรีพาวเวอร์ที่จะเดินเครื่องได้เต็มกำลังผลิต หลังจากที่เริ่มตั้งแต่ปี 51 โดยจะมีรายได้ต่อปี 600-700 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น 25%
ส่วนโครงการหงสาและน้ำงึม 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินว่าจะล่าช้าออกไปหรือไม่ เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)และรัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนผลิตไฟฟ้าสำรอง(PDP)ที่ประเมินว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศ อาจจะลดลง จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ก็ยังเชื่อว่าประเทศไทยยังมีโอกาสในการส่งไฟฟ้าไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ ระยะ 1-2 ปีที่ยังไม่มีโครงการใหม่เข้ามา บริษัทจะศึกษาลงทุนโครงการใหม่ เช่น ในธุรกิจถ่านหิน ที่ประเทศอินโดนีเซียในแหล่งเกาะชวาและสุมาตรา อย่างไรก็ตาม ยังต้องศึกษาอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ รวมทั้วศึกษาการลงทุนด้านพลังงานในเวียดนามด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าที่บริษัทมีความถนัด
สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง นายนพพล กล่าวว่า เป็นปัจจัยตามสภาวะตลาดไม่มีความกังวลเนื่องจากผลประกอบการของบริษัทยังมีเสถียรภาพ มีกระแสเงินสดในมือสูงถึง 8.4 พันล้านบาท และมีกำไรสะสมจากการดำเนินงานถึง 2.3 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความพร้อมในการลงทุนของบริษัท