บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ชี้แจงถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของกำไรสุทธิในไตรมาส 3/51 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 4,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.1% จากไตรมาส 3/50 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 3,512 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมรายได้จากค่าเชื่อมโยงเครือข่าย) เพิ่มขึ้น 8.3% เป็น 20,665 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของรายได้ในกลุ่มต่างๆ ทั้งลูกค้าระบบเติมเงิน การบริการทางข้อมูล การบริการโรมมิ่งต่างประเทศ และบริการโทรออกต่างประเทศ
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมรายได้จากค่าเชื่อมโยงเครือข่าย) ลดลงเล็กน้อย 1.9% ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล (low season) และปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในไตรมาส 3/51 ในส่วนของค่าใช้จ่าย บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/51 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการตลาดในการเปลี่ยนภาพลักษณ์บริษัทฯ และภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ (Corporate and brand refreshing)
ค่าใช้จ่ายการตลาดคิดเป็นอัตราส่วนต่อรายได้รวมในไตรมาสที่ 3/51 เพิ่มเป็น 2.8% จาก 2.0% ในไตรมาส 2/2551 ในส่วนของกำไรสุทธิเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/51 ลดลง 28.4% จากการที่บริษัทฯ มีการบันทึกรายได้จากการระงับข้อพิพาทระหว่าง DPC กับ DTAC จำนวน 1,739 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้ดังกล่าว กำไรสุทธิจะลดลงเพียง 11.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2551
ดอกเบี้ยรับเท่ากับ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จาก 75 ล้านบาท ในไตรมาส 3/50 เนื่องจากบริษัทฯ มีเงินสดเพิ่มขึ้นและอัตราเฉลี่ยดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 51 บริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเท่ากับ 13,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,470 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/50 จากการที่บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลง 7.7% เป็น 2,732 ล้านบาท ในไตรมาส 3/51 จาก 2,959 ล้านบาท ในไตรมาส 3/50 เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่น้อยลง และการหยุดตัดค่าเสื่อมค่าความนิยม (292 ล้านบาท) ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ที่บังคับใช้ (มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 43 ปรับปรุงในปีพ.ศ.2550) การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญอยู่ที่ 2.2% ของรายได้ลูกค้าระบบรายเดือน ลดลงจาก 7.0% ในไตรมาส 3/50 เนื่องจากนโยบายการหาลูกค้าใหม่ที่ทำด้วยความระมัดระวัง