น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมนำเรื่องการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวกลับไปทบทวนรายละเอียดอีกครั้ง และแต่งตั้งให้นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาความเป็นเจ้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ โดยกำหนดให้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์แล้วเสนอกลับเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ มีปัญหาการแย่งกันเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการดังกล่าวระหว่างกรุงเทพมหานคร(กทม.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เนื่องจากมีประเด็นขัดแย้งในข้อกฎหมายเกี่ยวสิทธิการดำเนินโครงการดังกล่าว อีกทั้งโครงการนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม
น.ส.ศุภรัตน์ กล่าวอีกว่าการที่กระทรวงคมนาคมยึดมติครม.เมื่อ 18 มี.ค.51 ซึ่งพิจารณาตามข้อเสนอของคณะกรรมการเศรษฐกิจด้านระบบขนส่งมวลชน ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เห็นชอบให้ รฟม.ดำเนินโครงการและซื้อกิจการบีทีเอส โดยหารือกับกระทรวงมหาดไทยนั้น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตั้งข้อสังเกต ในครม.วันนี้ว่ามติดังกล่าวเป็นเพียงการรับทราบมติของคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่านั้น ยังไม่มีการชี้ชัดว่าเป็นมติครม.ที่อนุมัติให้ รฟม.ดำเนินโครงการ ดังนั้น จึงต้องสร้างความชัดเจนเรื่องดังกล่าวก่อน
นอกจากนี้ คณะกรรมการพิจาณาความเป็นเจ้าของโครงการที่นายโอฬาร เป็นประธานจะมีหน้าที่พิจารณาด้วยว่าการดำเนินโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสีสายเขียวจะเปิดประมูลโครงการโดยวิธีใด เนื่องจากกระทรวงคมนาคม เสนอให้ใช้วิธีการประมูลแบบนานาชาติ(Inter Bidding)เนื่องจากเกิดการแข่งขันเสนอราคาในวงกว้างเป็นการทั่วไป เช่นเดียวกับการวิธีการประมูลของรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ และให้ยกเว้นวิธีการประมูลแบบ e-auction เนื่องจากเป็นวิธีการประมูลโดยเสนอราคาแบบเหมารวม
สำหรับการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ ด้านงานโยธา ใช้งบลงทุน 16,443 ล้านบาท สายสีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ ด้านงานโยธา ใช้งบลงทุน 15,134 ล้านบาท