ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดร่วง 157.23 จุดหลังราคาบ้านในอังกฤษร่วงแรงสุดในรอบ 30 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 12, 2008 08:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 150 จุดเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าราคาบ้านในอังกฤษทรุดตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 30 ปี และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคภายในประเทศปรับตัวลดลงด้วย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 157.23 จุด หรือ 3.57% ปิดที่ 4,246.69 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,231.49-4,403.92 จุด

นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนัก หลังจาก สถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) ซึ่งเป็นสำนักงานสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านในอังกฤษร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในรอบ 3 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนต.ค.

รายงานดังกล่าวระบุว่า บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษมียอดขายบ้านเฉลี่ยที่ 10.9 ยูนิตในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจข้อมูลในปี 2521 ขณะเดียวกันสัดส่วนราคาบ้านที่ลดลงมีจำนวนสูงกว่าราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นถึง 82% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาบ้านอยู่ในช่วงขาลงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 ทั้งนี้ ราคาบ้านใน 12 เขตที่สำรวจโดย RICS ร่วงลงทั้งหมด โดยมูลค่าบ้านที่ลดลงในภาคเหนือนั้นอยู่ในระดับติดลบ 100 จุด ส่วนราคาบ้านในลอนดอนติดลบ 90 จุด

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนลดการใช้จ่าย ซึ่งส่งผลกระทบให้ยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ร่วงลง 2.2% ต่อปี และเป็นสถิติการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2548

หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 9.3% หุ้นริโอทินโตดิ่งลง 8.9% หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 10.1% และหุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ร่วงลง 14.4%

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วย โดยหุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบีดิ่งลง 9.1% เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจว่าจะมีธนาคารใดยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์ธนาคาร HBOS แข่งกับลอยด์ส ทีเอสบีหรือไม่ ขณะที่หุ้น HBOS ดิ่งลง 7.9%

หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 3.9% หลังจากมีข่าวว่าสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดอาจจำเป็นต้องเพิ่มทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ