นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง(BLS)เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์เพิ่มเป็น 4.2-4.5% จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 4.00% ตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าสอดคล้องกับตลาดภาพรวม โดยมีลูกค้าที่เป็นนักลงทุนสถาบันเป็น 40% โดยกลุ่มนี้รวมนักลงทุนต่างชาติแต่มีไม่มาก และนักลงทุนบุคคล 60% จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงมากนัก
"รายได้หลักเราคงยังมาจากโบรกเกอร์ ถึงแม้ภาวะจะปรับตัวลดลง แต่โชคดีได้ balance สัดส่วนลูกค้า นักลงทุนบุคคลและนักลงทุนสถาบัน และการที่นักลงทุนสถาบันขณะนี้มีบทบาทในตลาดทุน จึงทำให้เรายังสามารถยืนมาร์เก็ตแชร์ในปีนี้ได้ที่ 4% " นายญาณศักดิ์ กล่าว
ส่วนหน้าธุรกิจนายหน้าในตลาดอนุพันธ์คาดว่าในปี 51 มาร์เก็ตแชร์จะอยู่ที่ 4% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 7% โดยในปีหน้าบริษัทจะพยายามเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เป็น 5% โดยจะกระตุ้นลูกค้าเข้ามาเทรดให้มากขึ้น
ปัจจุบัน BLS มีบัญชีลูกค้าทั้งหมด 2.0-2.5 พันบัญชี โดยเป็นบัญชีที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอ 30%
นายญาณศักดิ์ กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ในปีหน้าว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพียงเห็นภาพว่านักลงทุนต่างชาติได้ลดสัดส่วนลงไปเหลือเพียง 20% จากเดิมเคยอยู่ที่ 30-35% แต่ในด้านวอลุ่มตลาดก็คงต้องรอดูในช่วงไตรมาส 4/51 ว่าจะมีทิศทางอย่างไร
สำหรับ BLS นั้นในปี 52 บริษัทมีแผนจะเพิ่มรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจ SBL, ตราสารหนี้, นายหน้าขายหน่วยลงทุน โดยตั้งเป้าทำรายได้จากธุรกกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 5% จาก 2-3% ในปีนี้
นายญาณศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากความเสียหายในการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์(มาร์จิ้น โลน) เช่นเดียวกันรายอื่น ๆ แต่ไม่มาก โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยมาร์จิ้นโลนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น จากเดิมที่จะมีจำนวนหุ้นที่จะอนุมัติปล่อยมาร์จิ้นเข้าไปทำการซื้อขาย 100 บริษัท ก็เหลือเพียง 42 บริษัท นอกจากนั้น ยังเข้าไปบริหารหนี้ของลูกค้าที่กระจุกตัว อีกทั้ง บังคับทางอ้อมลดหนี้และขายหุ้นนำมาชำระหนีคืนบริษัท