นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง กล่าวว่า การตัดสินใจเพิ่มทุนของบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์(TSFC)ควรจะเป็นการตัดสินใจของภาคเอกชนเป็นหลักจะมีความเหมาะสมกว่า เนื่องจากกระทรวงการคลังถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเพียงประมาณ 10% เท่านั้น ขณะที่ภาคเอกชนร่วมกันถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่
ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการเสนอขอเพิ่มทุน โดยจะขอพิจารณาแผนการเพิ่มทุนที่บริษัทจะเสนอมาก่อน
"ตอนนี้ยังไม่เห็นแผนเพิ่มทุนของ TSFC ดังนั้น ขอดู Proposal ที่จะเสนอมาก่อน...บริษัทนี้ตั้งขึ้นมานานแล้วจากช่วงวิกฤติเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ และเห็นว่าเป็นบริษัทเอกชน เพราะมีภาคเอกชนถือหุ้นส่วนใหญ่ การตัดสินใจเพิ่มทุนควรให้ภาคเอกชนพิจารณา" นายสุชาติ กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ รายงานข่าวจาก TSFC ระบุว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการแก้ไขฐานะการเงิน หลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และมีเงินกองทุนติดลบ ซึ่งเป็นผลพวกต่อเนื่องจากวิกฤติภาคการเงินในสหรัฐที่กระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่วงการโบรกเกอร์ประเมินว่าการเพิ่มทุน TSFC เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้อาจจะต้องใช้เม็ดเงินถึง 1.6-1.7 พันล้านบาท