นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บมจ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อในประเทศปรับตัวลดลงมาก เนื่องจากว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่การบริหารงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ บริษัทฯ ยังคงมั่นใจในศักยภาพและผลการดำเนินงาน โดย DRT ยังมีตลาดส่งออกเข้ามาชดเชย ซึ่งตั้งเป้าจะรักษาอัตราการเติบโตไว้ที่ 10% ของรายได้รวม โดยจะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก ได้แก่ เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา รวมทั้งการรุกตลาดไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน DRT ยังมีรายได้หลักจากขายภายในประเทศอีก 90% โดยเป็นการขายให้กับผู้ใช้โดยตรงหมายถึงการขายผ่านร้านค้าของผู้จำหน่ายที่มีอยู่กว่า 600 ราย ทั่วประเทศ
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ จะหันมาบุกตลาดผนังสำเร็จรูป หรือ “ผนังแซนด์วิชบอร์ด" (Diamond Sandwich Board) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย นับเป็นนวัตกรรมใหม่ของการก่อสร้างที่เข้ามาช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน และใช้เวลาในการก่อสร้างน้อย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ เหมาะสมกับการก่อสร้างในรูปแบบของอาคารสูง และคอนโดมิเนียม เป็นอย่างมาก โดยกำลังเป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยในเวลานี้
“ที่ผ่านมาตลาดกระเบื้องหลังคาโดยรวมเริ่มนิ่ง แต่ DRT ไม่หยุดนิ่งที่จะหาช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้ จึงได้แตกไลน์ธุรกิจจับตลาดผนังสำเร็จรูป ซึ่งได้เริ่มนำร่องในโครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง10/1 และคอนโดมิเนียม ในพัทยาเหนือ" นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงมีทิศทางที่ดี หลังจากแนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการผลิตและดำเนินการก็ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตเกิดวิกฤติราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีก บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้านการขนส่งไว้ด้วย โดยบริษัทฯ เริ่มที่จะกระจายสินค้าด้วยการตั้งฮับเก็บสินค้า เพื่อรองรับสินค้าจากส่วนกลางไปตามภูมิภาคต่างๆ แทนที่จะเก็บไว้ที่เดียว เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งที่ผ่านมา ได้เริ่มทำที่ จังหวัดขอนแก่น โดยเปิดฮับใหม่ที่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้หันมาใช้แก๊สธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถบรรทุกขนส่งสินค้าของบริษัทฯ แทนน้ำมันดีเซล ด้วย