นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เปิดเผยว่า บริษัทจะยังคงเดินตามแผนธุรกิจเดิม คือ เปิดโครงการใหม่ปีละ 2-3 โครงการ โดยในปี 2552 ยังเชื่อมั่นว่าตลาดคอนโดมิเนียมยังมีความต้องการสูง แม้ว่าจะมีปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หรือความไม่สงบทางการเมือง
โดยแผนการพัฒนาโครงการใหม่หลังจากนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 - 3 โครงการ เฉลี่ยโครงการละ 1 พันล้านบาท อาทิเช่น โครงการอยู่ที่สีลม, โครงการย่านพญาไท, โครงการที่ทองหล่อ ซอย 10 เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมจะอยู่ในเมืองเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้มีที่ดินอยู่ในมือแล้ว
“สถานการณ์ในขณะนี้ MJD ต้องดำเนินงานในลักษณะระมัดระวังมากขึ้น แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเลวร้ายกว่านี้ เนื่องจากว่ากลุ่มลูกค้ายังมีกำลังซื้อ เพียงแต่ชะลอการตัดสินใจ ซึ่งแผนที่เราเตรียมจะลงทุนในปีหน้า จะเน้นโครงการที่ไม่ใหญ่มากนัก และเน้นในทำเลย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ขณะที่โครงการที่เปิดขายใหม่ บริษัทฯ ใช้นโยบายการขายที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้ได้ลูกค้าที่อยู่อาศัยจริงมากกว่าการซื้อเก็งกำไร"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าว
สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 109.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.12 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 75.21 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 45.37 % ขณะที่รายได รวมอยู่ที่ 618.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.91% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2550 ที่มีรายได้ 529.43 ล้านบาท
"กำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายโครงการกว่า 614.32 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 16.55% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากการที่บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้เพิ่ม จากโครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์ เอ และทาวเวอร์ บี,โครงการวินด์ สุขุมวิท 23 และโครงการวินด์ รัชโยธิน โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม รวมถึงโครงการมิคโคนอส หัวหินด้วย" นายสุริยน กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ถือว่าการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจ และการเมืองจะอยู่ในภาวะผันผวน รวมถึงการเกิดวิกฤติการเงินของโลก ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายของบริษัทฯ เพราะโครงการของ MJD เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ ที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อมาก เนื่องจากทุกโครงการของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ขณะที่ MJD ยังมีโครงการที่มีโอกาสเติบโตได้อีก และสามารถรักษายอดขายไว้ได้อย่างต่อเนื่อง