ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 552.59 จุด ขณะตลาดจับตาประชุม G20

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 14, 2008 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 550 จุดเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ระดับราคาต่ำ หลังจากดัชนีดิ่งลงติดต่อกันหลายวันเนื่องจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ลดลงเกินคาด และความคาดหวังที่ว่าที่ประชุมกลุ่ม G20 จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโลก

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 552.59 จุด หรือ 6.67% แตะที่ 8,835.25 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 58.99 จุด หรือ 6.92% แตะที่ 911.29 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 97.49 จุด หรือ 6.50% แตะที่ 1,596.70 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.99 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 3.01 พันล้านหุ้น

ไรอัน ลาร์สัน นักวิเคราะห์จากบริษัท Voyageur Asset Management กล่าวว่า "หลังจากตลาดถูกกระหน่ำติดต่อกัน 3 วันทำการจนมูลค่าในตลาดหายไปราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนก็เริ่มเข้ามาช้อนซื้อหุ้นที่ระดับราคาต่ำเพราะมองว่าตลาดได้ซึมซับปัจจัยลบไว้มากพอแล้ว ท่าทีการซื้อขายเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มกลับมาใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าที่จะพิจารณาเรื่องปัจจัยพื้นฐานของตลาด"

ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 5.65 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากการนำเข้าของสหรัฐร่วงลงเป็นประวัติการณ์ 5.6% และการส่งออกลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2544

ไมเคิล เกรกอรี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า "ความต้องการนำเข้าน้ำมันดิบ รถยนต์ และโทรทัศน์จากต่างประเทศลดลง เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกส่งผลให้ผู้บริโภคและภาคเอกชนของอเมริกันระมัดระวังการใช้จ่าย จึงทำให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในยุโรปและญี่ปุ่นที่ทรุดตัวลงกำลังฉุดรั้งยอดส่งออกของสหรัฐให้ลดลงด้วย

ขณะที่ แจ็ค เอบลิน นักวิเคราะห์จาก Harris Private Bank กล่าวว่า "นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคับคั่งก่อนที่การประชุม G20 จะเริ่มต้นขึ้น โดยคาดหวังว่าที่ประชุมจะชูประเด็นวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลกและพร้อมที่จะร่วมมือกันแก้ไขเรื่องนี้"

แดน ไพรซ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ คาดการณ์ว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจโลก หรือ G20 ที่กรุงวอชิงตันในวันเสาร์นี้ ที่ประชุมจะเห็นชอบให้ใช้มาตรการเฉพาะเจาะจงในการรับมือกับภาวะผันผวนในตลาดการเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากเศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการณ์การเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดปรากฏการณ์ Great Depression

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การประชุม G20 ครั้งนี้ นายทาโร อาโสะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะประกาศแผนการสนับสนุงเงินทุนมูลค่า 10 ล้านล้านเยน หรือ 1.05 แสนล้านดอลลาร์ ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อใช้ในการปล่อยกู้ฉุกเฉินในกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม นายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่เดินทางไปร่วมประชุม G20 แต่ได้แต่งตั้งนางแมเดอลีน อัลไบรท์ อดีตรมว.ต่างประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และ นายจิม ลีช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐไอโอวา เป็นตัวแทนเข้าประชุม

หุ้นวอล-มาร์ทดีดตัวขึ้น 4.4% แม้บริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ตาม ขณะที่หุ้นบริษัทอินเทลดีดตัวขึ้น 6.7% แม้บริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายไตรมาส 4 ลงราว 1 พันล้านดอลลาร์ หลังอุปสงค์ลดลงอย่างหนัก

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ร่วงลง 4.2% แต่หุ้นฟอร์ดปิดบวก 3.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ