ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นแบงค์,สินค้าโภคภัณฑ์ ถ่วงฟุตซี่ปิดลบ 12.81 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 14, 2008 08:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกันวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 12.81 จุด แตะที่ 4,169.21 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,079.62-4,198.67 จุด

นิค บรินด์ นักวิเคราะห์จาก New Star Asset Management กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนยังคงถูกกระทบจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในประเทศยุโรปที่มีแนวโน้มถดถอย โดยเฉพาะเยอรมนีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า เศรษฐกิจเยอรมนีประจำไตรมาส 3 ของปีนี้หดตัวลง 0.5% ต่อเนื่องจากที่หดตัวลง 0.4% ในไตรมาสที่ 2 โดยตัวเลขดังกล่าวร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 0.2% ซึ่งย้ำให้เห็นว่า เศรษฐกิจเยอรมนีได้เข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี หลังจากที่วิกฤตการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการใช้จ่าย

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก หลังจากนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐประกาศว่าสหรัฐจะไม่นำงบประมาณมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปัญหาหรือหนี้เสียของสถาบันการเงินต่างๆในประเทศ แต่จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อแก่ผู้บริโภค

ทั้งนี้ หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 6% หุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 7% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดิ่งลง 6.2% ส่วนตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นบริษัทลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ (LSE) หรือบริษัทตลาดหุ้นอังกฤษดิ่งลง 10.35% หลังจาก LSE เปิดเผยว่าตลาดอาจต้องประสบภาวะผันผวนด้านการเงินไปอีกระยะหนึ่งและจะระงับแผนการซื้อคืนหุ้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบีที ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของอังกฤษ โดยหุ้นบีทีพุ่งขึ้น 8.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสสองที่สูงเกินคาด



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ