นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สถาบันวิจัย บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวในทิศทางเดียวกับดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น 3-4% โดยตลาดบ้านเรามองว่ายังคงวิ่งตามตลาดภูมิภาคอยู่ เพียงแต่บ้านเราจะมีปัจจัยจากในประเทศในเรื่องของสถานการณ์การเมืองที่มีความกังวลในช่วงนี้ รวมทั้งเรื่องของการปรับครม.ด้วย
สำหรับเรื่องการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯในงวดไตรมาส 3/51 ที่ออกมา และเรื่องภาวะเศรษฐกิจมองว่าทิศทางคงจะคล้าย ๆ กับประเทศทั่วโลก และเชื่อว่าไทยเองก็ไม่ได้แย่มากเหมือนประเทศอื่น
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยมีน้ำหนักไปทาง Commodity มาก ซึ่งช่วงนี้ทิศทางของ Commodity จะยังไม่ดี ดังนั้นหุ้นในกลุ่ม Commodity ก็คงจะยังไม่เด่น ดังนั้นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยคงจะไม่เด่นมาก การปรับตัวขึ้นจึงยังไม่น่าจะรุนแรง
พร้อมให้แนวรับ 430-445 จุด แนวต้านให้ไว้ที่ 450 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(13 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,835.25 จุด เพิ่มขึ้น 552.59 จุด(+6.67%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 911.29 จุด เพิ่มขึ้น 58.99 จุด(+6.92%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,596.70 จุด เพิ่มขึ้น 97.49 จุด (+6.50%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 251.57 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 58.24 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์หรือ 3.7%
- บอร์ด กพช.อนุมัติปรับราคาแอลพีจี ภาคขนส่ง-อุตสาหกรรมกิโลกรัมละ 6 บาท เป็น 24 บาท โดยทยอยปรับถึงเพดานในระยะ 3 เดือน หวังนำเงินที่ได้ใช้หนี้ ปตท.กว่า 7 พันล้าน ส่วนรถแท็กซี่ยังไม่ลงตัว ด้าน กบง.ขานรับหารือกำหนดวันปรับราคาสัปดาห์หน้า ทั้งยกเลิกโครงการลงทุนไฟฟ้าในลาว 5 โครงการ
- "หอการค้า" ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2552 เผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกทรุดหนัก ฉุดจีดีพีไทยโตต่ำกว่า 3% ขณะที่ภาคส่งออกอ่วมโตแค่ 1% “ประมนต์" แนะรัฐใช้เม็ดเงินกระตุ้นอย่างมีประสิทธิภาพชี้วิกฤติรุนแรงกว่าปี 2540 ด้านแบงก์ชาติเตรียมทบทวนเป้าเศรษฐกิจปีหน้า
- ภาคเอกชนห่วงทีมเศรษฐกิจขัดแย้งฉุดความเชื่อมั่นรัฐบาลทรุด กระทบเศรษฐกิจ แนะเร่งปรับความเข้าใจด่วน ส.อ.ท.จี้นายกฯ แสดงบทบาทผู้นำเศรษฐกิจ ด้าน “ไชยา" แจงต้องการทำงานเร็วสนองประชาชนระบุพร้อมทำงานร่วม “โอฬาร"
- ธปท.จะทบทวนสมมติฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เนื่องจากสถานะการณ์เศรษฐกิจขณะนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก จำเป็นต้องทบทวนเพื่อความเหมาะสม
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้มีการส่งเสริมการใช้น้ำมัน อี85 แบบครบวงจร เพื่อให้การส่งเสริมการใช้น้ำมัน อี85 เป็นไปอย่างมีประสิทธิ ภาพและเป็นรูปธรรม โดยคาดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติเชิงเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 4.47 แสนล้านบาท
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์)เตรียมเสนอ 3 โครงการ ให้กระทรวงการคลังนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งในงบกลาง 1 แสนล้านบาท มาทำโครงการช่วยผู้ส่งออกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- "แมคควารีกรุ๊ป" กลุ่มที่ปรึกษาการเงินชั้นนำออสเตรเลีย ห่วงเงินฝืดสร้างความเสียหายให้ผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์กับแบงก์แถบเอเชียปีหน้า ชี้กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีเสี่ยงล้มละลายมากขึ้น ด้าน เจ.พี.มอร์แกนหวั่นความถดถอยของสหรัฐจะเลวร้ายกว่าวิกฤติสินเชื่อ ล่าสุดเดือนต.ค.เฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกขาดทุนแสนล้านดอลลาร์แล้ว
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยภาวะปัจจุบันประเทศไทยยังไม่จำเป็นที่จะจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund) ที่จะนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาตั้ง เนื่องจากขณะนี้ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง