นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างผลกำไรให้เพิ่มสูงขึ้นจากธุรกิจในปัจจุบันและขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในปีหน้าจะเข้าสู่ตลาดของเทคโนโลยี 3จี ซึ่งจะส่งผลบวกการเติบโตของอุตสาหกรรมไอซีทีทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการวางเครือข่ายและการติดตั้งอุปกรณ์การสื่อสาร การพัฒนาโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมเพื่อรองรับระบบใหม่
"ทั้งหมดนั้นถือเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ของกลุ่มสามารถ เพื่อสร้างรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทสามารถทั้งในและต่างประเทศ"นายวัฒน์ชัย กล่าว
9 เดือนที่ผ่านมากลุ่มสามารถเทลคอมมี backlog ในมือแล้วประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดชนะการประมูลโครงการขยายบริการเครือข่าย IP Core ของ กสท. มูลค่า 960 ล้านบาท และมีงานรอประมูลในไตรมาส 4/51 อีกราว 1,600 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงที่จะเข้าไปร่วมประมูลโครงการ 3G มูลค่า 2 หมื่นล้านบาทของทีโอที
รวมแล้วคาดว่าเมื่อสิ้นปี 51 จะมี Backlog ในปีนี้กว่า 4-5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้า และทำให้คาดการณ์ได้ว่ารายได้ของกลุ่มสามารถเทลคอมในปี 52 จะมีการเติบโตกว่าเท่าตัวแน่นอน
ในส่วนบมจ. สามารถไอ-โมบาย (SIM) ถึงแม้ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3/51 จะไม่เป็นไปตามเป้า แต่ i-mobile ยังคงความเป็นผู้นำในตลาด House Brand ที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อสร้างฐานการตลาดให้เข้มแข็งอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นในการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ ตลอดจนประสิทธิภาพของช่องทางการจัดจำหน่าย
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 51 คาดว่าแนวโน้มการขายจะดีขึ้น เพราะเข้าสู่ช่วง High Season โดยจะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ อีก 4-5 รุ่น คาดว่าจะสามารถจำหน่ายมือถือได้รวมแล้วทั้งปีถึง 4.5 ล้านเครื่อง ยิ่งไปกว่านั้นจะมีการเปิดร้าน Horo World ศูนย์รวมศาสตร์และบริการด้านการพยากรณ์ดวงชะตาในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างเป็นทางการราวต้นเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ จำนวนเครื่องไอ-โมบายที่จำหน่ายได้ยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรวมแล้วถึง 3 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศได้ 1.8 ล้านเครื่อง และในต่างประเทศจำหน่ายได้ 1.2 ล้านเครื่อง
ในส่วนของสายธุรกิจอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา มีการเติบโตได้ดีอันเนื่องมาจากเป็นช่วงท่องเที่ยว ประกอบกับ CATS ได้ปรับเพิ่มค่าบริการขึ้นอีก 15 % ส่งผลให้มีรายได้รวม 196 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัท Kampot Power Plant จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าป้อนแก่โรงงานปูนซิเมนต์ไทยที่ประเทศกัมพูชา โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมาทำรายได้ไปแล้วกว่า 153 ล้านบาท นอกจากนี้ ธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ ในประเทศ อาทิ บริการคอลล์เซ็นตอร์และบริการกล้องวงจรปิด ในไตรมาส 3 มีรายได้เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ถึง 16 เปอร์เซนต์