นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG) เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทมั่นใจว่าในปี 2552 ยังคงมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัท แม้ว่า สภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว เนื่องจากขณะนี้บริษัทมียอดคำสั่งซื้อของลูกค้าแล้วเกือบ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญาระยะยาว และเป็นการรับจ้างผลิตสินค้าทั้งผลิตคอยล์เย็น,คอยล์ร้อน และคอยล์น้ำเย็น ที่ใช้ในหลายอุตสาหกรรม ทั้ง แอร์ ตู้เย็น โดยลูกค้ารายใหญ่ คือ เครื่องปรับอากาศยี่ห้อแคเรีย รวมทั้งมีรายได้จากธุรกิจโรงแรม เดอะละไม ที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่บริษัทซื้อมามาเมื่อไตรมาส 3/51 โดยจะเปิดแกรนด์ โอเพ่นนิ่ง ในวันี่ 26 พ.ย. 2551 นี้ซึ่งจะสร้างรายได้เต็มที่ในปี 2552
“ปีหน้าเป็นปีที่ต้องทำธุรกิจระมัดระวัง ขายของต้องเก็บตังค์ได้ ระวังการลงทุนและเป็นการปรับตัวของธุรกิจ แต่เรามั่นใจว่าปีหน้าเรายังสามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไร เพราะปัจจัยหลักคือการหาลูกค้า โดยปัจจุบันเรามี Blacklog แล้วเกือบ 1 พันล้านบาท และปี 2551 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ถึง 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท จากงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้ไปแล้ว 1.2 พันล้าน ซึ่งจากเดิมเราเคยกังวลว่าปีนี้รายได้คงใกล้เคียงกับปีก่อนหลังจากบริษัทไม่สามารถทำแบบคอยล์ขึ้นรูปได้ทันกับความต้องการลูกค้า ทำให้คำสั่งซื้อน้อยกว่าที่คาดไว้" นายอารีย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2552 บริษัทคงจะยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพคล่องในปัจจุบันได้ตั้งสำรองไว้ในการซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 75 ล้านบาท หรือจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน 25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน คิดเป็นร้อยละ 9.94 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทไม่เหมาะสมที่จะลงทุนขนาดใหญ่ หลังมีแผนการซื้อหุ้นคืน
"บริษัทมั่นใจว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและ เชื่อว่าส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากมูลค่าทางบัญชีของบริษัทปัจจุบันสูงกว่า 3 บาท ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันราคาหุ้นยังไม่ถึง 2 บาท และจากพื้นฐานที่บริษัทมีราคาหุ้นควรดีกว่านี้" นายอารีย์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าแผนขยายกำลังเป็น 2 พันล้านตารางนิ้ว/ปี จาก 1.3 พันล้านตารางนิ้ว/ปี ซึ่งเริ่มดำเนินการไปแล้วและสามารถดำเนินการได้ตามแผนในไตรมาส 4/51
ส่วนการลงทุนในธุรกิจโรงแรม หากมีโอกาสลงทุนและมีผู้เสนอขายในราคาที่ถูกจึงจะซื้อเพิ่มเติม โดยปี 2552 รายได้หลักเกือบ 100% ยังมาจากธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วน ด้านรายได้จากธุรกิจโรงแรมยังคงเป็นส่วนที่น้อยมาก
“โครงการลงทุนปีหน้าคงไม่มี ส่วนธุรกิจโรงแรมหากมีโรงแรมมาเสนอขายในราคาที่ถูกจริงๆและพื้นที่น่าสนใจก็พร้อมเข้าไปลงทุน โดยอาจใช้วิธีการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อลงทุน" นายอารีย์ กล่าว