RS คาดปี 51 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27%, อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 17, 2008 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.อาร์เอส (RS) คาดว่า อัตรากำไรเบื้องต้นและอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 27 % และ 5 % ตามลำดับ แม้ว่าปัจจัยลบทางธุรกิจทั้งเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจจะมีเข้ามามาก เนื่องจากบริษัทเน้นการเป็นผู้ผลิตและบริหารจัดการคอนเทนต์บันเทิง และกีฬา อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานในทุกหน่วยธุรกิจ และบริหารต้นทุนอย่างระมัดระวัง

"ผมยังคงเชื่อมั่นว่า ท่ามกลางภาวะวิกฤต มักมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ และจะพยายามผลักดันให้ผลการดำเนินงานของปีนี้และในปีหน้า เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน"นายดามพ์ กล่าว

ทั้งนี้ การดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 เดือนหลัง กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ พร้อมที่จะเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ โดยกลุ่มธุรกิจเพลงจะมีกลุ่มอิซี่ลิสซึ่นนิ่งจากค่ายเมลโล่โทนเริ่มมีผลงานออกมาจากอัลบั้มของ"โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน"เป็นศิลปินคนแรกจากค่ายนี้ ตามด้วยอัลบั้มของ"ป้อม ออโต้บาห์น"

ส่วนผู้ฟังเพลงในกลุ่มนักศึกษาและวัยเริ่มต้นทำงานค่ายเพลนตี้ มิวสิค ที่มีสมเกียรติ อริยะชัยพานิชย์ เป็นแม่ทัพก็จะมีผลงานออกมาเช่นกัน ด้านค่ายไนน์ ริคเตอร์ ก็จะส่งผลงานของกลุ่มศิลปินร็อคเลือดใหม่ออกมา ตามด้วยค่ายเรกเก้ วิลเลจที่ส่งอัลบั้มเพลงแนวสกา-เรกเก้ของวงดนตรีคุณภาพอย่าง"ไค-โจ บราเธอร์"ออกมาอีกด้วย

ด้าน Sport Entertainment Business ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ หลังจากที่เปิดตัวสนาม “S-One" บนพื้นที่ 8 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด กม.4 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีแผนที่จะเปิดอีก 2 สนามภายในกลางปีหน้า โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่สนามละ 100 ล้านบาท รวมทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่เตรียมจัดขึ้นจากผู้สนับสนุนหลักทั้ง 5 รายคือ พานาโซนิค, เนสกาแฟ, สามารถ ไอ-โมบาย, ยามาฮ่า และ M-150 อีกด้วย

อนึ่ง RS แจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 มีรายได้รวม 543.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่บริษัทฯขาดทุนสุทธิ 90.3 ล้านบาท ทำให้ไตรมาส 3 บริษัทฯ พลิกจากขาดขุนเป็นกำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 67.1 ล้านบาท หรือเติบโต 489%

รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจสื่อโมเดิร์นเทรด ที่ได้รับผลการตอบรับจากเอเจนซี่และลูกค้าจำนวนมาก โดยขณะนี้มีสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมากสนใจซื้อเวลาโฆษณายาวจนถึงสิ้นปี 51 เนื่องจากผู้ประกอบการต่างเล็งเห็นว่าช่องทางการสื่อสารวิธีนี้สามารถเข้าถึงการผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ จุดขาย และเป็นสื่อที่ช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี โดยในไตรมาส 3 นี้ ธุรกิจสื่อในโมเดิร์นเทรดซึ่งเป็นธุรกิจดาวรุ่ง ภายใต้การบริหารงานของบริษัทอาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด เติบโตถึง 331 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธุรกิจโขว์บิซทำรายได้ไปกว่า 177 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 94 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้มาจากการจัดคอนเสิร์ตและอีเว้นท์หลายงาน อาทิ คอนเสิร์ตปาน-ธนพร , คอนเสิร์ตซิลลี่ฟูล-อีโบล่า , กิจกรรมผ้าป่าสนั่นเมืองของค่ายเพลงลูกทุ่งอาร์สยาม , กิจกรรม School Tour รวมถึงการรับงานอีเว้นท์ให้กับหลายๆหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ

ขณะที่ธุรกิจดิจิตอล ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยทำรายได้กว่า 72 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 33 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีก่อน โดยบริษัทฯเชื่อว่าธุรกิจดิจิตอลจะยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตอีกด้วย

ในขณะที่ธุรกิจเพลงซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำทำรายได้กว่า 107 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 20 ล้านบาท สืบเนื่องมาจากการปรับโมเดลทางการตลาดของธุรกิจเพลงในรูปแบบใหม่ด้วยกลยุทธ์ “ Music Segment Champion " กับ 8 กลุ่มแนวเพลง 10 ค่าย พร้อมแบ่งเซกเม้นท์คนฟังกลุ่มเป้าหมายในเชิงลึกและแนวเพลงอย่างชัดเจน โดยเน้นกำหนดจุดยืนในการเป็นแชมเปี้ยนในแต่ละเซกเม้นท์ และสร้างสรรค์งานเพลงอย่างมีคุณภาพ ทำให้ผลงานเพลงที่อาร์เอสผลิตออกมามีความหลากหลายเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังและครองใจกลุ่มผู้ฟังเป้าหมายได้มากขึ้น อันมีผลต่อการเติบโตของดิจิตอล คอนเทนต์ในที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ