นายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. ไอที ซิตี้ (IT) มองว่า ปีนี้เชื่อว่ายอดขายยังเติบโต 8% จากปีก่อนที่มียอดขาย 5.56 พันล้านบาท ซึ่งในปีนี้เป็นการเติบโตจากสาขาเดิมที่มีอยู่และสาขาใหม่ ส่วนปี 52 อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีจะลดลง ซึ่งในส่วนของไอทีก็คงได้รับผลกระทบตามไปด้วย เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อลดลงหรือชะลอ
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทปรับตัวโดยการหันไปเปิดสาขาในต่างจังหวัด เนื่องจากความต้องการ และกำลังซื้อในต่างจังหวัดยังเติบโต เพราะผลผลิตทางการเกษตรขายได้ราคา
นายเอกชัย กล่าวว่า ปีหน้าจะลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท เปิด 5 สาขา ใช้เงินลงทุนประมาณ 8 ล้านบาทต่อสาขา เม็ดเงินมาจากกระแสเงินสด โดยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน ขณะที่ไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดประมาณ 1-2 แห่ง ที่ จ.หนองคาย พื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตร และอีกแห่งที่แหลมฉบัง อยู่ระหว่างการประมาณว่าจะเปิดในปีนี้หรือต้นปีหน้า
ทั้งนี้ การเปิดสาขาที่ผ่านมา มีบางสาขาที่ EBITDA ติดลบ และบางสาขา เช่น กาดสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ EBITDA ทั้งบวกและลบ เกิดจากการแข่งขันที่สูง ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินที่จะเข้าไปช่วยเหลือสถานะ ได้อย่างไร
"วิกฤตที่เกิดขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอ ย่อมจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตอยู่แล้ว แต่การที่ธุรกิจไอทีเป็น Positive Growth ยังไงก็ยังไปได้อยู่ดี เพียงแต่ว่าจะเห็นการเติบโตที่มีอัตราน้อยลง หรือเป็นเลขตัวเดียว ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า ปัญหาดังกล่าวจะสะท้อนภาพให้เห็นในครึ่งแรกปีหน้า ซึ่งการปรับตัวจะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เติบโตได้"นายเอกชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับตัวในช่วงที่ผ่านมา เพราะเห็นภาพปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทำตลาดใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์มากขึ้น แต่ในส่วนของปีนี้เชื่อว่ากำไรยังเติบโตดีและมากกว่าปี 2549 ที่มีกำไร 175 ล้านบาท และน่าจะดีกว่าปี 50 ที่มีกำไร 161 ล้านบาทซึ่งจะเห็นได้จากครึ่งปีแรกที่จ่ายปันผล 0.26 บาท/หุ้น และในครึ่งปีหลังของปีนี้เชื่อว่าจะจ่ายปันผลได้แน่นอน