ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นค้าปลีก ทุบฟุตซี่ปิดร่วง 100.81 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 18, 2008 08:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มก่อสร้าง หลังจากองค์กรวิจัยเอกชนแห่งหนึ่งในอังกฤษระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษอาจทรุดตัวลงรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 100.81 จุด แตะที่ 4,132.16 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,110.68-4,236.41 จุด

ริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Hargreaves Lansdown Stockbrokers กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีพ.ศ.2552 ของอังกฤษจะหดตัวลง 1.7% ซึ่งเป็นการหดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2523 และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจอังกฤษเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอยรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายซบเซาลงหลังจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4%ต่อปี ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.1% และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากภาคเอกชนและภาคครัวเรือนลดการใช้จ่ายลง

หุ้นคิงฟิสเชอร์ดิ่งลง 5.6% ขณะที่หุ้นวูลซีย์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายท่อปะปารายใหญ่สุดของโลก ร่วงลง 11% หุ้นเน็กซ์ดิ่งลง 3.7%

ส่วนหุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลง 13.8% และหุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ร่วงลง 10.2% เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าการควบกิจการของธนาคารทั้งสองแห่งจะมีความเป็นไปได้หรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ