ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) คลายกฎเกณฑ์บริษัทจดทะเบียนเข้าโครงการซื้อหุ้นคืนหวังดึงเม็ดเงินเข้าตลาดหุ้น โดยร่วมกับกระทรวงพาณิชย์แก้ไขกฎเกณฑ์ของบริษัทมหาชนให้สามารถนำหุ้นที่ซื้อคืนสามารถนำมาจ่ายเป็นหุ้นปันผล หรือ ขายให้กับกรรมการและพนักงาน(ESOP) หรือขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) หรือใช้รองรับวอร์แรนต์ได้
รวมทั้งยังสามารถเพิ่มทุนได้ภายใน 3 ปีที่อยู่ในโครงการซื้อหุ้นคืน พร้อมกันนั้น ยังให้คณะกรรมการบริษัทส่งหนังสือเวียนให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติซื้อหุ้นคืนได้ไม่ต้องรอเรียกประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ โดยกระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอต่อครม.เพื่ออนุมัติในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ คาดว่ามีอีกกว่า 80 บริษัทที่สนใจเข้าโครงการ
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการ และผู้จัดการ ตลท. กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ตลท.ผ่อนคลายกฎเกณฑ์เพื่อสนับสนุนการซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นด้วยและอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎกระทรวงก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ
"เรื่องนี้เราได้คุยกับทางกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเขาก็เห็นด้วยและเร่งแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งเข้าใจว่ากำลังเตรียมเรื่องเข้าครม.ให้เร็วที่สุด และก็ได้มีการประสานกับกระทรวงการคลัง"นางภัทรียา กล่าว
ตลท.จะผ่อนคลายกฎเกณฑ์เพื่อเปิดทางให้ บจ.ที่เข้าโครงการซื้อหุ้นคืนสามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนได้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายกิจการ นอกจากนี้ หุ้นที่บริษัทซื้อคืนมาแล้วก็ให้มีทางออกอื่นนอกเหนือจากการขายกลับคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ เช่น นำไปขายให้ PP หรือรองรับวอร์แรนต์ หรือเสนอขายในโครงการ ESOP หรือจ่ายเป็นหุ้นปันผลก็ได้
สำหรับบริษัทที่จะซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% ของทุนจดทะเบียน แต่เดิมบางแห่งต้องผ่านขั้นตอนที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัท ก็จะทำให้ระยะเวลาเร็วขึ้น โดยหลังจากที่คณะกรรมการมีมติ ก็ให้ใช้วิธีแจ้งกับผู้ถือหุ้นโดยใช้หนังสือเวียนแทนการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น
นางภัทรียา กล่าวว่า การที่ตลท.เข้าไปแก้ไขข้อติดขัดต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้บจ.เข้าโครงการซื้อหุ้นคืนนั้น เชื่อว่าน่าจะบจ.อีกกว่า 80 บริษัทที่สนใจจะเข้าโครงการซื้อหุ้นคืน จากการที่ตลาดฯได้เคยจัดสำรวจและจัดประชุม ซึ่งเคยมีผู้ติดต่อเข้ามาประมาณ 80 บริษัท แต่ที่เข้าโครงการได้จริงคงไม่ถึงครึ่งหนึ่งเพราะบริษัทที่จะเข้าโครงการได้ต้องมีสภาพคล่องในตลาดพอสมควร
แต่อย่างบางบริษัทที่เขาไม่สนใจเกณฑ์ต่าง ๆ และได้ทำไปแล้ว ได้แก่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ได้ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงิน 3,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน มีบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นบริษัทคืน จำนวน 30 บริษัท วงเงิน 12,910 ล้านบาท