ผู้บริหารของบล.ไซรัส(SYRUS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯคาดว่าผลดำเนินงานปีนี้(2551)น่าจะขาดทุนประมาณ 80 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯจะต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญประมาณ 60 ล้านบาทในไตรมาส 4/51 ซึ่งเป็นผลจากในระหว่างเดือนตุลาคม 51 บริษัทฯได้บังคับขายหลักทรัพย์ของลูกค้าในบัญชีเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2551 บริษัทฯ ได้รับชำระจากการบังคับขายหลักประกันต่ำกว่ามูลหนี้เป็นจำนวน 60.3 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี บริษัทฯยังมีความคาดหวังว่าลูกหนี้มาร์จิ้นกลุ่มนี้น่าจะคืนหนี้ให้แก่บริษัทฯได้ประมาณ 80% ของมูลหนี้ทั้งหมด ซึ่งหากเป็นจริงก็จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯได้ปี 52 ปรับตัวดีขึ้น
"ไตรมาส 4 ปีนี้(2551)บริษัทฯก็ยังแย่อยู่และเชื่อว่าก็เหมือนบริษัทหลักทรัพย์อื่น ๆ ด้วย เนื่องจากภาวะตลาดฯก็ยังไม่ดี อีกทั้งหลายโบรกฯก็ต้องเผชิญกับเรื่องของลูกหนี้มาร์จิน ไม่ใช่แต่บริษัทฯเราเพียงบริษัทฯเดียว บริษัทฯอื่นมีมูลหนี้มากกว่าเราอีก และตอนนี้บริษัทฯก็ยังไม่ได้มีหนี้เสียอีกเลย ซึ่งหากวอลุ่มตลาดโดยรวมในช่วงไตรมาส 4/51 ดีขึ้นมีการเทรดเฉลี่ยต่อวันสูงเกิน 18,000 ล้านบาทต่อวัน ก็จะทำให้บริษัทฯมีผลดำเนินงานที่ดีขึ้นได้ แต่ถ้ายังเป็นอย่างทุกวันนี้ก็คงจะแย่"แหล่งข่าวจากผู้บริหารของ SYRUS กล่าว
ผู้บริหารของ SYRUS กล่าวอีกว่า บริษัทฯคาดหวังว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 บริษัทฯน่าจะมีผลการดำเนินงานที่เป็นผลกำไรได้ จากธุรกิจหลักทรัพย์ที่ได้แรงเสริมจาก"ทีเอ็มบี แมคควอรี" และจากตลาดอนุพันธ์(TFEX)ที่มีการเติบโตขึ้น
หลังจากที่ได้ทีมและลูกค้าของ"ทีเอ็มบี แมคควอรี"มาแล้วก็ทำให้บริษัทฯสามารถเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ได้ประมาณ 0.3% โดยปัจจุบันบริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดจากธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)อยู่ประมาณ 1% ซึ่งก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 1.2% นั่นเป็นเพราะภาวะตลาดฯไม่ดี
ปัจจุบัน บริษัทฯมีบัญชีลูกค้าหลักทรัพย์อยู่ประมาณ 6,000 ราย เวลานี้ภาวะตลาดฯไม่ค่อยดีนักจึงมีส่วนบัญชีที่ Active ประมาณ 1,200 ราย ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงมีลูกค้ารายย่อยเป็นหลักในสัดส่วน 85% ส่วนลูกค้าสถาบันมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 15%
แต่ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)จากธุรกิจอนุพันธ์มีการเติบโตที่ค่อนข้างดี โดยขณะนี้มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ 1.5-1.6% จากเดิมที่มีแค่ 1.3% และมีบัญชีลูกค้า TFEX อยู่ประมาณ 40 ราย ซึ่งก็เป็นปัญชีที่ Active เกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้บริหาร SYRUS ยังกล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงมีแผนจะซื้อทีมงานและซื้อลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ต้องการจะทำธุรกิจอีกแล้ว สามารถจะมาเสนอขายได้ เหมือนอย่างที่บริษัทฯได้ซื้อทีมและลูกค้ารายย่อยของ"ทีเอ็มบี แมคควอรี"มา ซึ่งมองแล้วรูปแบบนี้จะดีกว่าลงทุนขยายสาขาเอง เพราะการซื้อเข้ามาเลยก็ได้ลูกค้ามาด้วย