ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 151.17 จุด หลัง HP เพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 19, 2008 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าหนุนตลาดหลังจากบริษัท ฮิวเลทท์-แพคการ์ด (HP) ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 4 ปีนี้และผลประกอบการปีหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึงซิตี้กรุ๊ป

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 151.17 จุด หรือ 1.83% แตะที่ 8,424.75 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 8.37 จุด หรือ 0.98% แตะที่ 859.12 จุดและดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.22 จุด หรือ 0.08% แตะที่ 1,483.27 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.60 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.43 พันล้านหุ้น

อลัน เกล นักวิเคราะห์จาก RidgeWorth Investments กล่าวว่า นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นในตลาดหลังจาก HP ปรับเพิ่มผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้และผลประกอบการปีหน้าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลจากข่าวที่ว่าซิตี้กรุ๊ปเตรียมปลดพนักงานทั่วโลก 52,000 คนในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้วถึง 2 เท่า หลังจากได้รับผลกระทบจากการขาดทุนติดต่อกันหลายไตรมาสและเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวลง

ทั้งนี้ หุ้น HP พุ่งขึ้นเกือบ 15% และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจน์ให้ดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 6% แตะระดับ 8.36 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าแม้ซิตี้กรุ๊ปปลดพนักงาน 52,000 คนก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ซิตี้กรุ๊ปกลับมามีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นเดิมได้

ส่วนหุ้นอินเตอร์เนชั่นแนล บิสเนส แมชีนส์ คอร์ป (IBM) พุ่งขึ้น 3.4% แตะที่ 80.08 ดอลลาร์ หุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสที่ดีเกินคาด

หุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 8.7% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการที่นายเจอร์รี หยาง ซีอีโอของยาฮู เตรียมลาออกตำแหน่ง จะเป็นการเปิดโอกาสให้ไมโครซอฟท์ คอร์ป ยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์ยาฮู อิงค์ อีกครั้ง และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะประสบผลสำเร็จ

แลร์รี ฮาเวอร์ตี ผู้จัดการกองทุนจากแกมโค อินเวสเตอร์ส อิงค์ กล่าวว่า สิ่งที่จำเป็นสำหรับยาฮูในขณะนี้ก็คือ การควบรวมกิจการกับไมโครซอฟท์ ดังนั้น ข่าวการลงจากตำแหน่งซีอีโอของเจอร์รี หยาง จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้นยาฮู เพราะมูลค่าตลาดของยาฮูร่วงลงมากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ที่เจอร์รี หยาง เข้ารับตำแหน่งซีอีโอในเดือนมิ.ย. 2550

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกับความไม่แน่นอนในระบบการเงินของสหรัฐ เนื่องจากนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ และนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถูกซักฟอกเรื่องการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากพอลสัน ประกาศเปลี่ยนแผนไม่นำเงินงบประมาณดังกล่าวเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปัญหาหรือหนี้เสียของสถาบันการเงินในประเทศ แต่จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อแก่ผู้บริโภค และไม่มีแผนจัดตั้งกองทุนที่จะเข้ามาบริหารสินทรัพย์ที่มีปัญหาของอุตสาหกรรมรถยนต์ (TARP)

นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อมีข่าวว่า บริษัท แบล็คร็อค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่สุดของสหรัฐ วางแผนลดพนักงานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 20 ปีของบริษัท เนื่องจากตลาดการเงินที่ทรุดตัวลงส่งผลให้อุตสาหกรรมกองทุนรวมตกต่ำลงด้วย

นอกจากนี้มีรายงานว่า บริษัทจัดการกองทุนรายอื่นๆ รวมถึงฟิเดลิตี้ อินเวสท์เมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทกองทุนรวมรายใหญ่สุดของโลก, บริษัท จานัส แคปิตอล กรุ๊ป และบริษัท พัทนัม อินเวสท์เมนท์ กำลังวางแผนที่จะลดพนักงาน 3,500 คนเพื่อรับมือกับภาวะขาดทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ