(เพิ่มเติม) KBANK ปรับลดเป้าสินเชื่อปี 52 เหลือ 6-7% จาก 16-17% ตาม GDP

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 19, 2008 18:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดว่าปี 52 การเติบโตของสินเชื่อคงจะปรับลดลงมาที่ 6-7% ตามประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดว่าจะโต 3% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าสินเชื่อจะมีการเติบโต 16-17% บนพื้นฐาน GDP ที่ 4% แต่คาดว่าเศรษฐกิจคงเติบโตไปไม่ถึง

"สินเชื่อคงไม่สามารถโตเกินความเป็นจริงได้ ในเมื่อเศรษฐกิจปรับตัวลดลงก็คงไม่ถึง 16-17% ที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องทำให้ถึง เศรษฐกิจอย่างดีที่สุดก็โต 3% เราก็คิดว่าเราปล่อยสินเชื่อได้ 6-7% และต้องเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อด้วย" นายบัณฑูร กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายบัณฑูร เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยดูแล้วยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะว่าดูดีเมื่อเทียบกับต่างประเทศ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่ก็คงไม่ถึงขั้นที่ธุรกิจต้องปิดกิจการ ซึ่งการที่เศรษฐกิจไทยไม่ได้รับผลมากนักจากวิกฤติในรอบนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากไม่มีการใช้จ่ายเกินตัว อีกทั้งสถาบันการเงินมีบทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อ 10 ปีก่อน

ขณะที่ในแง่ของการเมืองไทยส่งผลทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไม่ดีนัก ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศชะงักงัน และนักท่องเที่ยวก็ชะลอตัว รวมทั้งการบริหารจัดการของราชการไม่ดี เป็นความเสี่ยงคนละแบบ

"ปี 52 ก็ห่วงเรื่องเศรษฐกิจ แต่คิดว่าไทยไม่ถึงขั้นเสียหายมากนัก คงมีการรัดเข็มขัด ธุรกิจไทยไม่ถึงกับเสียแต่ทรุดบ้าง ผมคิดว่าไทยดูดีในแง่เศรษฐกิจ แต่การเมืองไม่ดี" นายบัณฑูร ระบุ

นวันนี้ เครือธนาคารกสิกรไทย ได้กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อเป็นเข็มทิศในการให้บริการแก่ลูกค้า โดยมีเป้าหมายให้ทุกบริการเป็นบริการที่ให้คำปรึกษา (Advice Ready) K-Weplan, Advice Ready Branch, K-SME Care Knowledge Center, K-Business Clinic ที่มีความหมายและมีคุณภาพสูงสุด ซึ่งลูกค้าไม่สามารถหาได้จากสถาบันการเงินอื่น โดยช่องทางการให้บริการของธนาคารจะมุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน ธุรกิจและเศรษฐกิจแก่ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างมืออาชีพ

"การพัฒนาบริการนี้เป็นเหมือนน้ำซึมบ่อทรายไม่ได้เห็นผลทันทีแต่อยากให้ความสะดวกสบายกับลูกค้ามากขึ้น คาดว่าอย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้าจะเริ่มเห็นผลโครงการนี้" นายบัณฑูร กล่าว

ด้านายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ KBANK คาดว่า ในปี 52 ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)ของธนาคารจะอยู่ไม่ต่ำกว่า 3.8-3.9% จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4% โดยปีหน้าภาพรวมตลาดดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้จะปรับตัวลดลงตามดอกเบี้ยนโยบาย แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามเรื่องของตลาดเครดิตต่างประเทศในปัจจุบันที่เกิดจากวิกฤติว่าจะมีผลกระทบต่อไทยหรือไม่

ส่วนการปล่อยสินเชื่อ มองว่าในปีหน้าถ้าเทียบบนพื้นฐานของเศรษฐกิจที่โต 3% และอัตราเงินเฟ้อที่ 3% คาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อน่าจะอยู่ที่ 9% แต่ธนาคารก็ยังต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ

นอกจากนี้ ในปี 52 ธนาคารจะพยายามลดหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL)ให้ต่ำกว่า 4% ซึ่งจะใกล้เคียงกับสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกัน คาดว่า รายได้จากค่าธรรมเนียมในปีหน้าจะเติบโต 25% จากปีนี้โตได้ 28-30% โดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมที่ 24-25% ของรายได้รวม และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 30% ใน 2-3 ปีข้างหน้าหรือประมาณปี 54 จากค่าธรรมเนียมในธุรกิจตลาดทุน และจากโครงการ K-Transmission ที่เจาะลูกค้ารายย่อย

นายประสาร คาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนธ.ค.นี้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% และจนถึงปี 52 (รวมธ.ค.51) จะปรับลดลงรวม 1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ