ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง (19 พ.ย.) โดยดัชนีดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 8,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า และหลังจากซีอีโอบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เตือนว่าระบบเศรษฐกิจสหรัฐอาจล่มสลาย หากรัฐบาลไม่ให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลง 427.47 จุด หรือ 5.07% ปิดที่ 7,997.28 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 52.54 จุด หรือ 6.12% แตะที่ 806.58 จุด และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 96.85 จุด หรือ 6.53% แตะที่ 1,386.42 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.64 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 16 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.36 พันล้านหุ้น
จอห์น เบลี นักวิเคราะห์จากบริษัท Cowen & Co กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหลังจากเฟดปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า และหลังจากผู้บริหารของจีเอ็มเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจล่มสลายหากรัฐบาลไม่ให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นทั่วทั้งกระดาน และฉุดดาวโจนส์ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 8,000 จุด"
ริค วาโกเนอร์ ซีอีโอจีเอ็มเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะตกต่ำจนถึงกับ "ล่มสลายในวงกว้าง" หากรัฐบาลสหรัฐปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศล้มละลาย ขณะที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้สภาคองเกรสออกมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์
"หากรัฐบาลปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ล้มละลาย ก็จะมีคนตกงานกว่า 3 ล้านคนภายในปีแรก จากนั้นรายได้ส่วนบุคคลจะร่วงลงอย่างน้อย 1.50 แสนล้านดอลลาร์ และรัฐบาลจะต้องสูญรายได้จากภาษีถึง 1.56 แสนล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 3 ปี สถานการณ์ดังกล่าวจะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยรุนแรงกว่าที่คาดคิด และมูลค่าความเสียหายจะมากกว่าเม็ดเงินที่รัฐบาลควรจะนำมาช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ ผมกล้าพูดว่า หากรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือเรื่องนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในดีทรอยท์รอดตายเท่านั้น แต่ยังโอบอุ้มระบบเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะล่มสลายด้วย" วาโกเนอร์กล่าวกับวุฒิสภา
ภายหลังจากรับฟังคำชี้แจงของซีอีโอจากค่ายรถยนต์กลุ่มบิ๊กทรีแล้ว นายด็อด ประธานคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งสภาคองเกรสกล่าวว่า "ผมสนับสนุนแผนการช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ไม่ใช่เพราะว่าพวกท่านโน้มน้าวว่าการไม่ให้ความช่วยเหลือจะทำให้รัฐขาดรายได้จากภาษี แต่ที่เห็นว่าควรช่วยก็เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดว่าแผนการให้ความช่วยเหลือจะได้รับการอนุมัติภายใน 2-3 วันข้างหน้านี้"
วาโกเกอร์ระบุว่า จีเอ็มต้องการเงินทุน 1-1.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยพยุงกิจการจีเอ็มให้อยู่รอดต่อไปได้ ขณะที่มุลลัลลีกล่าวว่า ฟอร์ดจำเป็นต้องระดมทุน 7-8 พันล้านดอลลาร์ และไครส์เลอร์ต้องการระดมทุน 7 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ หุ้นจีเอ็มร่วงลง 9.7% หุ้นฟอร์ดดิ่งลง 25%